ตลาดหุ้นยุโรปปิดดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (13 พ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน อย่างไรก็ตาม การร่วงลงของราคาน้ำมันดิบได้ฉุดหุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลง และสกัดแรงบวกของตลาดหุ้นยุโรปในระหว่างวัน
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวขึ้น 0.7% ปิดที่ 364.44 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,472.22 จุด เพิ่มขึ้น 146.78 จุด หรือ +1.34% ขณะที่ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,053.76 จุด เพิ่มขึ้น 0.68 จุด หรือ +0.01% และดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,101.85 จุด เพิ่มขึ้น 42.76 จุด หรือ +0.85%
หุ้นโวดาโฟน พุ่งขึ้น 7.8% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้เพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งแรกของปีงบการเงิน 2561 พร้อมกับเปิดเผยเป้าหมายการลดต้นทุน
ส่วนหุ้นตัวอื่นๆที่ปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ หุ้นสายการบินลุฟฮันซา พุ่งขึ้น 3.4% หุ้นอินฟิเนียน เทคโนโลยีส์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์ของเยอรมนี พุ่งขึ้น 3.2% และหุ้นโคเวสโตร ผู้ผลิตวัสดุรายใหญ่ของเยอรมนี ดีดตัวขึ้น 3.2% เช่นกัน
หุ้นเคอริง เจ้าของแบรนด์กุชชี พุ่งขึ้น 3.1% ขณะที่หุ้นเอสทีไมโครอิเล็กทรอนิกส์ ผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์รายใหญ่ของฝรั่งเศส ทะยานขึ้น 3.3%
อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงตามทิศทางราคาน้ำมันในตลาดโลก โดยหุ้นบีพี ร่วงลง 2.8% และหุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ ดิ่งลง 2.2%
หุ้นไบเออร์ ซึ่งเป็นบริษัทยาและเคมีภัณฑ์ของเยอรมนี ร่วงลง 2.9% เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับรายงานข่าวที่ว่าคณะลูกขุนรัฐแคลิฟอร์เนียร์ของสหรัฐได้ตัดสินให้บริษัทมอนซานโต ซึ่งเป็นบริษัทในเครือไบเออร์ จ่ายเงินชดเชยแก่ผู้ป่วยโรคมะเร็ง เนื่องจากมอนซานโตมีความผิดฐานไม่ได้แจ้งผู้ป่วยรายดังกล่าว รวมทั้งผู้บริโภครายอื่นๆ เกี่ยวกับความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งจากการใช้ผลิตภัณฑ์ยาฆ่าหญ้า "ราวน์อัพ" ซึ่งมีสารไกลโฟเสท
สำหรับความเคลื่อนไหวทางการเมืองนั้น เจ้าหน้าที่รายหนึ่งของสหภาพยุโรป (EU) กล่าวว่า ตัวแทนการเจรจาจากอังกฤษและ EU สามารถตกลงกันเกี่ยวกับร่างข้อตกลงว่าด้วยการแยกตัวของอังกฤษออกจาก EU (Brexit) ซึ่งได้มีการส่งไปยังนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เพื่อให้รัฐสภาให้การรับรองต่อไป
ทั้งนี้ EU และอังกฤษจำเป็นที่จะต้องบรรลุข้อตกลง Brexit เพื่อให้การค้าระหว่างทั้ง 2 ฝ่ายยังคงสามารถดำเนินต่อไปได้ หลังจากที่อังกฤษแยกตัวออกจาก EU อย่างเป็นทางการในวันที่ 29 มี.ค.ปีหน้า ทางด้านรัฐบาลอิตาลีได้ยื่นงบประมาณเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) เมื่อวานนี้ โดยไม่มีการปรับแก้เป้าหมายตัวเลขการขาดดุลงบประมาณตามที่ EC ได้ท้วงติงก่อนหน้านี้ ซึ่งทำให้มีการคาดการณ์ว่า EC อาจไม่อนุมัติงบประมาณของอิตาลีอีกครั้ง หลังจากที่ได้ปฏิเสธเมื่อเดือนที่แล้ว