ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทพุ่งขึ้นในวันนี้ โดยได้แรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และหุ้นพลังงาน รวมทั้งการประกาศผลประกอบการของบริษัทเมซีส์ อิงค์
นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากการเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐที่ได้ชะลอตัวลง เมื่อเทียบรายปี
นักลงทุนจับตาการกล่าวสุนทรพจน์ของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันนี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเศรษฐกิจ และอัตราเงินเฟ้อ รวมทั้งทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ
ณ เวลา 21.48 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 25,474.91 จุด เพิ่มขึ้น 188.42 จุด หรือ 0.75%
ราคาหุ้นแอปเปิล, เฟซบุ๊ก, อเมซอน และเน็ตฟลิกซ์ต่างก็ปรับตัวขึ้นในวันนี้
หุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้นนำตลาดวันนี้ ตามการทะยานขึ้นของราคาน้ำมัน
สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI พุ่งขึ้นเกือบ 1% ในวันนี้ ทะลุระดับ 56 ดอลลาร์ โดยสามารถดีดตัวขึ้น หลังจากที่ร่วงลงติดต่อกัน 12 วัน ซึ่งเป็นช่วงขาลงที่ยาวนานที่สุดนับตั้งแต่เริ่มมีการซื้อขายสัญญาน้ำมันดิบ WTI ในปี 2526
ณ เวลา 19.54 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนธ.ค. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาด NYMEX เพิ่มขึ้น 53 เซนต์ หรือ 0.95% สู่ระดับ 56.22 ดอลลาร์/บาร์เรล
ราคาน้ำมันได้ดิ่งลงมากกว่า 25% นับตั้งแต่ต้นเดือนต.ค. โดยเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่ที่เกิดภาวะราคาน้ำมันทรุดตัวในปี 2557
ราคาน้ำมันฟื้นตัวขึ้นในวันนี้ หลังจากที่นายซูฮาอิล บิน โมฮัมเหม็ด ฟาราจ ฟาริส อัล มาสโรอี ประธานกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และนายโมฮัมเหม็ด บาร์คินโด เลขาธิการโอเปก กล่าวว่า สมาชิกโอเปกบรรลุฉันทามติที่จะสนับสนุนให้มีการปรับลดการผลิตน้ำมันในการประชุมในวันที่ 6 ธ.ค. เพื่อสร้างความสมดุลต่อตลาดน้ำมัน
ทั้งนี้ โอเปกจะจัดการประชุมที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรียในวันที่ 6 ธ.ค.เพื่อกำหนดนโยบายการผลิตน้ำมันในปีหน้า
ทางด้านกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ชะลอตัวลงสู่ 2.1% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบรายปี หลังจากเพิ่มขึ้น 2.2% ในเดือนก.ย.
เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี CPI พื้นฐานเพิ่มขึ้น 0.2% และสอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากเพิ่มขึ้น 0.1% ทั้งในเดือนส.ค.และก.ย.
ขณะเดียวกัน ดัชนี CPI ทั่วไป ดีดตัวขึ้น 0.3% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 9 เดือน และสอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากเพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนก.ย.
การพุ่งขึ้นของดัชนี CPI ได้แรงหนุนจากการดีดตัวของราคาค่าเช่า และพลังงาน
เมื่อเทียบรายปี ดัชนี CPI ทั่วไปปรับตัวขึ้น 2.5% ในเดือนต.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 2.3% ในเดือนก.ย.
เมซีส์ อิงค์ ซึ่งเป็นห้างสรรพสินค้ายักษ์ใหญ่ของสหรัฐ รายงานตัวเลขกำไรที่สูงกว่าคาดในไตรมาส 3 โดยบริษัทมีกำไร 27 เซนต์/หุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 14 เซนต์/หุ้น ขณะที่ยอดขายเพิ่มขึ้น 3.3% เทียบกับที่นักวิเคราะห์ที่คาดว่ายอดขายจะเพิ่มขึ้น 2.8% อย่างไรก็ดี รายได้อยู่ที่ระดับ 5.40 พันล้านดอลลาร์ ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 5.41 พันล้านดอลลาร์