ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าทั้งแดนบวกและลบ นลท.จับตาการค้าจีน-สหรัฐและ Brexit

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday November 19, 2018 11:49 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าวันนี้ทั้งแดนบวกและลบ เนื่องจากนักลงทุนต่างระมัดระวังการซื้อขาย เพราะความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ด้านการเมืองในอังกฤษ หลังจากที่นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ถูกกดดันอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ นักลงทุนยังกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐและจีน

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 26,290.10 จุด เพิ่มขึ้น 106.57 จุด, +0.41% ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 21,755.46 จุด เพิ่มขึ้น 75.12 จุด, +0.35% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดภาคเช้าที่ 1,700.03 จุด ลดลง 6.35 จุด, -0.37%

นายไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐ ได้กล่าวโจมตีจีนบนเวทีการประชุมกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชียแปซิฟิก (เอเปก) ที่ปาปัวนิวกีนีเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาว่า จีนดำเนินนโยบายการค้าที่ไม่เป็นธรรม และสหรัฐจะไม่ยุติการใช้มาตรการการค้ากับจีน จนกว่าจีนจะเปลี่ยนแปลงนโยบายการค้าให้มีความยุติธรรม

"ที่ผ่านมา สหรัฐได้ใช้มาตรการที่จริงจังในการแก้ไขภาวะไร้สมดุลทางการค้ากับจีน โดยเราได้ออกมาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนในวงเงิน 2.50 แสนล้านดอลลาร์ และเราจะดำเนินการเรียกเก็บภาษีเพิ่มขึ้นอีก" นายเพนซ์กล่าว

นักวิเคราะห์มองว่า ท่าทีของนายเพนซ์เป็นที่น่ากังวล "เนื่องจากแสดงให้เห็นว่าเรากำลังเข้าสู่การเล่นเกมที่ต้องมีผู้ชนะและผู้แพ้ (zero-sum game) ในเอเชียแปซิฟิก" ขณะที่ความหวังว่าสหรัฐและจีนจะยุติสงครามการค้านั้นริบหรี่ลงทุกที

ในขณะที่สถานการณ์การเมืองในอังกฤษก็ยังผันผวน ภายหลังจากที่นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษได้ออกมาชี้แจงต่อกรณีที่มีการวิจารณ์ให้กำจัดเธอออกจากตำแหน่งว่า การกำจัดเธอออกจากตำแหน่งไม่ได้ทำให้ข้อตกลงว่าด้วยการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ง่ายดายขึ้นแต่อย่างใด พร้อมกับปกป้องร่างข้อตกลง Brexit โดยชี้ว่า สัปดาห์ต่อๆไปถือเป็นสัปดาห์ที่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง

การประชุมกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชียแปซิฟิก (เอเปก) ซึ่งจัดขึ้นเป็นเวลา 2 วันที่ปาปัวนิวกินี ได้ปิดฉากลงโดยปราศจากการออกแถลงการณ์ร่วมระหว่างผู้นำที่เข้าร่วมการประชุม ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในรอบ 25 ปี หรือนับตั้งแต่เริ่มมีการประชุมเอเปกเมื่อปี 2536 เนื่องจากสหรัฐและจีนมีความคิดเห็นไม่ลงรอยกันในประเด็นการใช้ภาษาของแถลงการณ์ร่วมฉบับสมบูรณ์ นับเป็นสัญญาณล่าสุดที่ชี้ให้เห็นว่าสงครามการค้าระหว่างสองประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลกจะไม่ยุติลงภายในเร็ววัน

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่ได้มีการเปิดเผยในวันนี้ ได้แก่ กระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ญี่ปุ่นมียอดขาดดุลการค้า 4.493 แสนล้านเยนในเดือนต.ค. หลังจากยอดส่งออกเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 8.2% เมื่อเทียบเป็นรายปี ขณะที่ยอดนำเข้าพุ่งขึ้น 19.9%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ