ดัชนีดาวโจนส์ยังคงร่วงลงต่อเนื่องในวันนี้ ล่าสุดทรุดตัวลงกว่า 400 จุด ใกล้หลุดระดับ 25,000 จุด โดยถูกกดดันจากการปรับตัวลงของหุ้นแอปเปิล อิงค์ และหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี
นอกจากนี้ การดิ่งลงเกือบ 1% ของราคาน้ำมัน ยังเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ฉุดตลาดลงในวันนี้
ณ เวลา 00.01 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 25,008.47 จุด ลดลง 404.75 จุด หรือ 1.59%
ราคาหุ้นเฟซบุ๊กดิ่งลง 5.4% ในวันนี้ ขณะที่หุ้นอเมซอนร่วงลง 4.2%
ราคาหุ้นแอปเปิล อิงค์ ซึ่งเป็นหนึ่งในหลักทรัพย์จำนวน 30 หลักทรัพย์ที่ใช้คำนวณดัชนีดาวโจนส์ ร่วงลงเกือบ 4% ในการซื้อขายวันนี้ หลังจากที่หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล รายงานว่า แอปเปิลได้ประกาศปรับลดคำสั่งผลิต iPhone ใหม่ทั้ง 3 รุ่น ที่เพิ่งมีการเปิดตัวในเดือนก.ย.
iPhone ที่ได้รับผลกระทบจากการปรับลดคำสั่งผลิตดังกล่าว ได้แก่ iPhone XR, iPhone XS และ iPhone XS Max
วอลล์สตรีท เจอร์นัลระบุว่า อุปสงค์ที่ต่ำกว่าคาดของ iPhone รุ่นใหม่ และการที่แอปเปิลตัดสินใจเสนอขาย iPhone ที่มีจำนวนรุ่นมากขึ้น ได้สร้างความยากลำบากในการประเมินจำนวนชิ้นส่วน และจำนวนเครื่อง iPhone ที่บริษัทต้องการ
แอปเปิลสร้างความตื่นตระหนกต่อนักลงทุนก่อนหน้านี้ด้วยการประกาศปรับลดตัวเลขคาดการณ์ยอดขาย iPhone สำหรับช่วงเทศกาลคริสต์มาส ส่งผลให้ซัพพลายเออร์บางรายออกคำเตือนเกี่ยวกับยอดขาย iPhone ที่อ่อนแอ
นอกจากนี้ ราคาหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยียังถูกกดดันในวันนี้ หลังจากหนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียล ไทม์ส รายงานว่า ทางการจีนกำลังตรวจสอบบริษัทซัมซุง, เอสเค ไฮนิกซ์ และไมครอน เทคโนโลยี ซึ่งเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ในการผลิตเมมโมรี ชิป ในข้อหาทุ่มตลาด
ขณะเดียวกัน ตลาดจับตาความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากที่นายไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐ กล่าวว่า สหรัฐจะไม่เปลี่ยนแปลงมาตรการเรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าวงเงิน 2.5 แสนล้านดอลลาร์จากจีน นอกจากว่าจีนจะเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการทำการค้ากับสหรัฐ
ทางด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวในสัปดาห์ที่แล้วว่า เขาอาจจะไม่ปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนครั้งใหม่