ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (21 พ.ย.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ ซึ่งรวมถึงยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนที่ร่วงลงหนักสุดในรอบกว่า 1 ปี อย่างไรก็ตาม ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ดีดตัวขึ้นปิดตลาดในแดนบวก โดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนช้อนซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มพลังงาน หลังจากหุ้นทั้งสองกลุ่มร่วงลงอย่างหนักในช่วงก่อนหน้านี้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,464.69 จุด ลดลง 0.95 จุด หรือ -0.00% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,649.93 จุด เพิ่มขึ้น 8.04 จุด หรือ +0.30% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,972.25 จุด เพิ่มขึ้น 63.43 จุด หรือ +0.92%
ดัชนี S&P500 และดัชนี Nasdaq ปิดตลาดดีดตัวขึ้น หลังจากนักลงทุนเข้าช้อนซื้อหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มเทคโนโลยี โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล ปรับตัวขึ้น 0.8% หุ้นเชฟรอน พุ่งขึ้น 1.3% หุ้นอ็อคซิเดนเชียล ปิโตรเลียม ทะยานขึ้น 2.5% หุ้นเชซาพีค เอนเนอร์จี พุ่งขึ้น 1.9% หุ้นเดวอน เอนเนอร์จี ทะยานขึ้น 4% หุ้นมาราธอน ออยล์ พุ่งขึ้น 3.01% และหุ้นฮัลลิเบอร์ตัน พุ่งขึ้น 1.5%
ทั้งนี้ หุ้นกลุ่มพลังงานได้รับปัจจัยหนุนจากราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ดีดตัวขึ้นกว่า 2% เมื่อคืนนี้ หลังจากมีกระแสคาดการณ์ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) จะลงมติปรับลดกำลังการผลิตในการประชุมเดือนหน้าที่ประเทศออสเตรีย
ส่วนหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีนั้น หุ้นเฟซบุ๊ก ดีดตัวขึ้น 1.8% หุ้นอเมซอนดอทคอม พุ่งขึ้น 1.4% หุ้นอัลฟาเบท ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล เพิ่มขึ้น 1.26% หุ้นไมครอน เทคโนโลยีส์ ขยับขึ้น 0.7% หุ้นซิสโก ซิสเต็มส์ ดีดตัวขึ้น 0.9% หุ้นออโตเดสก์ อิงค์ พุ่งขึ้น 9.7% แต่หุ้นแอปเปิลปิดขยับลง 0.11% หลังจากพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในระหว่างวันที่ 180.27 ดอลลาร์ ขณะที่นักลงทุนจับตาความเคลื่อนไหวของราคาหุ้นแอปเปิลอย่างใกล้ชิด หลังจากบริษัทได้ปรับลดคำสั่งผลิต iPhone ใหม่ 3 รุ่นที่เพิ่งมีการเปิดตัวเมื่อเดือนก.ย.ที่ผ่านมา
หุ้นกลุ่มค้าปลีกฟื้นตัวขึ้นเช่นกัน เนื่องจากนักลงทุนเข้าช้อนซื้อหลังจากที่ร่วงลงอย่างหนักก่อนหน้านี้ โดยหุ้นทาร์เก็ต ดีดตัวขึ้น 0.3% หุ้นเมซีส์ อิงค์ พุ่งขึ้น 2% หุ้นนอร์ดสตรอม ทะยานขึ้น 2.6% หุ้นเซียร์ส โฮลดิ้งส์ พุ่งขึ้น 2.4% หุ้นโคห์ล คอร์ป พุ่งขึ้น 2.9% และหุ้นโลว์ส พุ่งขึ้น 2.5
อย่างไรก็ตาม ดัชนีดาวโจนส์ปิดตลาดในแดนลบติดต่อกันเป็นวันที่ 3 เมื่อคืนนี้ หลังจากทางการสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป ร่วงลง 4.4% ในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.ปีที่แล้ว เพราะได้รับผลกระทบจากการทรุดตัวของคำสั่งซื้อเครื่องบิน
ขณะที่กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 3,000 ราย สู่ระดับ 224,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปลายเดือนมิ.ย. และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 215,000 ราย
ทางด้านมหาวิทยาลัยมิชิแกนได้เปิดเผยผลสำรวจซึ่งระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวลงสู่ระดับ 97.5 ในเดือนพ.ย. โดยต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 98.3 หลังจากแตะระดับ 98.6 ในเดือนต.ค. ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐเป็นการสำรวจความเชื่อมั่นของผู้บริโภค 500 รายต่อภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งได้แก่ ฐานะการเงินส่วนบุคคล, ภาวะเงินเฟ้อ, การว่างงาน, อัตราดอกเบี้ย และนโยบายรัฐบาล
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆที่มีกำหนดเปิดเผยในวันศุกร์นี้ได้แก่ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นต้นเดือนพ.ย.จากมาร์กิต และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นต้นเดือนพ.ย.จากมาร์กิต
- ตลาดหุ้นสหรัฐจะปิดทำการในวันพฤหัสบดีที่ 22 พ.ย. เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า (Thanksgiving Day) *