ตลาดหุ้นลอนดอนปิดพุ่งขึ้นกว่า 100 จุดเมื่อคืนนี้ (21 พ.ย.) จากแรงซื้อที่ส่งเข้าหนุนหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มธนาคาร ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาสถานการณ์การแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) และการประชุมผู้นำกลุ่มประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป (EU) ในวันอาทิตย์นี้
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,050.23 จุด เพิ่มขึ้น 102.31 จุด หรือ +1.47%
ตลาดหุ้นลอนดอนพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่ง หลังจากนักลงทุนเข้าซื้อหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มธนาคาร โดยหุ้นบีพี พุ่งขึ้น 2.3% และหุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ พุ่งขึ้น 2.3% เช่นกัน โดยหุ้นกลุ่มพลังงานได้รับปัจจัยหนุนจากราคาน้ำมันดิบที่ดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ หลังจากมีกระแสคาดการณ์ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) จะลงมติปรับลดกำลังการผลิตในการประชุมเดือนหน้าที่ประเทศออสเตรีย
ส่วนหุ้นในกลุ่มธนาคารนั้น หุ้นเอชเอสบีซี พุ่งขึ้น 2.7% และหุ้นลอยด์ แบงกิ้ง ปรับตัวขึ้น 1.6%
หุ้นจอห์นสัน แมทท์ธีย์ ซึ่งเป็นบริษัทเคมีภัณฑ์ ทะยานขึ้น 13% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรเพิ่มขึ้น 19% ในไตรมาส 3 ปีนี้ พร้อมกับปรับเพิ่มคาดการณ์ผลประกอบการในปีงบการเงิน 2561
นักลงทุนจับตาการประชุมผู้นำกลุ่ม EU ในวันอาทิตย์นี้ โดยที่ประชุมเตรียมลงนามในข้อตกลง Brexit ซึ่งประกอบด้วยข้อตกลงการถอนตัวของสหราชอาณาจักร และแผนการโดยประมาณของความสัมพันธ์ในรูปแบบใหม่ของทั้งสองฝ่ายหลังจากสหราชอาณาจักรถอนตัวออกจาก EU