ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (27 พ.ย.) โดยได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มทรัพยากร รวมทั้งความวิตกกังวลที่เกิดขึ้นหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้แสดงความเห็นว่า ข้อตกลงว่าด้วยการที่สหราชอาณาจักรแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) อาจเป็นอุปสรรคทางการค้าระหว่างสหรัฐและสหราชอาณาจักร
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,016.85 จุด ลดลง 19.15 จุด หรือ -0.27%
ปธน.ทรัมป์ได้แสดงความเห็นที่ทำเนียบขาวเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า เมื่อพิจารณาข้อตกลง Brexit ในขณะนี้จะเห็นได้ว่า สหราชอาณาจักรอาจจะไม่สามารถทำการค้ากับสหรัฐ
อย่างไรก็ตาม นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษได้ออกมาปกป้องร่างข้อตกลง Brexit โดยกล่าวว่า "สหราชอาณาจักรสามารถทำข้อตกลงการค้ากับประเทศต่างๆทั่วโลก ส่วนสหรัฐนั้น เราได้พูดคุยกับสหรัฐแล้ว เกี่ยวกับรายละเอียดของข้อตกลงที่เราจะทำร่วมกันในอนาคต"
โฆษกของนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ กล่าวว่า รัฐบาลอังกฤษจะเผยแพร่บทวิเคราะห์ทางเศรษฐกิจเกี่ยวกับแบบจำลองสถานการณ์ต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ในวันนี้ โดยบทวิเคราะห์ดังกล่าวรวมถึงการเปรียบเทียบข้อตกลง Brexit ของนางเมย์ กับการที่อังกฤษยังคงอยู่กับสหภาพยุโรป
นอกจากนี้ โฆษกของนางเมย์ยังระบุว่า รัฐบาลจะไม่ยกเลิกการประกาศใช้มาตรา 50 ซึ่งเป็นการเริ่มต้นกระบวนการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป
หุ้นกลุ่มทรัพยากรร่วงลง โดยหุ้นบีพี ปรับตัวลง 0.5% หุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ ร่วงลง 1% หุ้นริโอทินโต ดิ่งลง 2% หุ้นเกลนคอร์ รีซอสเซส ร่วงลง 1.6% และหุ้นแซนด์วิค ร่วงลงกว่า 2%
หุ้นกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวและสายการบินปรับตัวลง นำโดยหุ้นอีซี่เจ็ท ร่วงลงกว่า 2% และหุ้นโธมัส คุก ปรับตัวลงเช่นกัน
นอกจากนี้ หุ้นกลุ่มธนาคารยังปรับตัวลงเช่นกัน โดยหุ้นบาร์เคลย์ส ลดลง 0.9% และหุ้นลอยด์ แบงกิ้ง ร่วงลง 1%