ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (10 ธ.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับอนาคตทางเศรษฐกิจและการเมืองของอังกฤษ หลังจากนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ตัดสินใจเลื่อนการลงมติในรัฐสภาอังกฤษต่อร่างข้อตกลงการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) โดยไม่มีกำหนด
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,721.54 จุด ลดลง 56.57 จุด หรือ -0.83%
นักลงทุนยังวิตกกังวลต่อรายงานข่าวที่ว่า นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ออกแถลงการณ์ต่อสภาสามัญชนของอังกฤษเมื่อวานนี้ โดยระบุว่า รัฐบาลได้ตัดสินใจเลื่อนการลงมติในรัฐสภาต่อร่างข้อตกลงการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) อย่างไม่มีกำหนด
ทั้งนี้ สภาสามัญชนของอังกฤษมีกำหนดลงมติในวันนี้ต่อร่างข้อตกลง Brexit ที่นางเมย์ทำไว้กับสหภาพยุโรป (EU) ก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ดี นางเมย์ได้เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่บ้านพักนายกรัฐมนตรีเมื่อวานนี้ เพื่อหารือการชะลอการลงมติดังกล่าวโดยไม่มีกำหนด เพื่อให้รัฐบาลมีเวลาในการชี้แจงทำความเข้าใจต่อสมาชิกสภาสามัญชนของอังกฤษจำนวนมากที่ยังคงมีท่าทีไม่เห็นด้วยต่อร่างข้อตกลงดังกล่าว
นางเมย์กล่าวว่า ถึงแม้ร่างข้อตกลงดังกล่าวได้รับเสียงสนับสนุนในวงกว้าง แต่กรณีของไอร์แลนด์เหนือยังคงเป็นประเด็นที่สร้างความวิตก และนางเมย์จะทำการเจรจาครั้งใหม่ต่อข้อตกลง Brexit กับทาง EU
ตลาดมีการคาดการณ์ในวงกว้างว่า ร่างข้อตกลง Brexit ของนางเมย์จะถูกคว่ำกลางสภา หากมีการลงมติในวันนี้
หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงตามทิศทางราคาน้ำมัน โดยหุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ และหุ้นบีพี ต่างก็ร่วงลงกว่า 1%
ส่วนหุ้นกลุ่มเวชภัณฑ์ดีดตัวขึ้น โดยหุ้นแอสทราเซเนกา พุ่งขึ้น 1.3% หุ้นแกล็คโซสมิธไคลน์ พุ่งขึ้น 2.2%