ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (13 ธ.ค.) หลังจากนายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ได้ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจยูโรโซนทั้งในปีนี้และปีหน้า พร้อมกับเตือนว่าเศรษฐกิจมีความเสี่ยงที่จะเผชิญภาวะขาลง ขณะที่นักลงทุนจับตาประเด็นร่างข้อตกลงการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit)
ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.2% ปิดที่ 349.42 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,924.70 จุด ลดลง 4.73 จุด หรือ -0.04% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,877.50 จุด ลดลง 2.69 จุด หรือ -0.04% และดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,896.92 จุด ลดลง 12.52 จุด หรือ -0.26%
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลงหลังจากนายมาริโอ ดรากี ประธาน ECB ได้ปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของยูโรโซนในปีนี้ สู่ระดับ 1.9% จากเดิมคาดการณ์ที่ระดับ 2.0% และปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของยูโรโซนในปีหน้า สู่ระดับ 1.7% จากเดิมคาดการณ์ที่ระดับ 1.8%
นายดรากีระบุว่า เศรษฐกิจยูโรโซนมีความเสี่ยงในช่วงขาลง โดยมีสาเหตุจากความไม่แน่นอนด้านภูมิรัฐศาสตร์, ผลกระทบจากนโยบายกีดกันทางการค้า, ความเปราะบางในตลาดเกิดใหม่ และความผันผวนในตลาดการเงิน
นอกจากนี้ นักลงทุนยังระมัดระวังการซื้อขาย พร้อมกับจับตาประเด็น Brexit อย่างใกล้ชิด โดยรายงานระบุว่า นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษได้เข้าร่วมการประชุมสุดยอดสหภาพยุโรป (EU) เมื่อวานนี้ เพื่อหาทางเชื่อมโยงการดำเนินการที่ได้มีการให้คำมั่นไว้จากผู้นำ EU เกี่ยวกับข้อตกลงเกี่ยวกับ Backstop หรือนโยบายที่ทั้งสองฝ่ายใช้ระบบศุลกากรร่วมกัน ครอบคลุมสินค้าเกือบทุกชนิด ยกเว้นสินค้าประมงในบริเวณชายแดนของไอร์แลนด์
อย่างไรก็ดี ฝั่ง EU จะไม่เจรจาต่อรองในเรื่องข้อตกลง แต่พร้อมที่จะรับประกันเกี่ยวกับประเด็น Backstop
หุ้นเมโทร ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ของเยอรมนี ดิ่งลง 11% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายลดลงในไตรมาส 3
ขณะที่หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลงเช่นกัน โดยหุ้นทุลโลว์ ออยล์ ดิ่งลง 3% หุ้นบีพี ลดลง 0.4%
อย่างไรก็ตาม หุ้น TUI AG ซึ่งเป็นบริษัทท่องเที่ยวของเยอรมนี พุ่งขึ้น 4.3% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นในไตรมาส 3
ส่วนหุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวขึ้นเช่นกัน โดยหุ้นยูนิเครดิต พุ่งขึ้น 1.2% และหุ้นบังโค ซานตานเดร์ เพิ่มขึ้น 1.5%