ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (19 ธ.ค.) ขานรับรายงานข่าวที่ว่า อิตาลี และสหภาพยุโรป (EU) สามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับงบประมาณประจำปี 2562 ของอิตาลี ขณะที่นักลงทุนจับตาผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดยตลาดหุ้นยุโรปปิดทำการซื้อขายก่อนที่คณะกรรมการเฟดจะแถลงมติการประชุม
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวขึ้น 0.31% ปิดที่ 341.52 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,766.21 จุด เพิ่มขึ้น 25.32 จุด หรือ +0.24% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดวันทำการล่าสุดที่ 6,765.94 จุด เพิ่มขึ้น 64.35 จุด หรือ +0.96% และดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดวันทำการล่าสุดที่ 4,777.45 จุด เพิ่มขึ้น 23.37 จุด หรือ +0.49%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดในแดนบวก หลังจากอิตาลี และ EU สามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับงบประมาณประจำปี 2562 ของอิตาลีได้แล้ว หลังจากที่มีความขัดแย้งกันก่อนหน้านี้ เกี่ยวกับตัวเลขขาดดุลงบประมาณ โดยอิตาลีประกาศปรับลดตัวเลขขาดดุลงบประมาณในปีหน้า สู่ระดับ 2.04% ลดลงจากเดิมที่ระดับ 2.40%
นายวัลดิส ดอมโบรฟสกีส รองประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ซึ่งเป็นองค์กรบริหารของ EU แถลงว่า "รัฐบาลอิตาลีได้ใช้ความพยายามอย่างมากในการปรับงบประมาณ ถึงแม้ตัวเลขที่ออกมาจะไม่ดีที่สุด แต่ก็ทำให้เราสามารถหลีกเลี่ยงการใช้มาตรการลงโทษประเทศสมาชิกกรณีมีการขาดดุลงบประมาณมากกว่าที่กำหนดไว้ (EDP) โดยตัวเลขงบประมาณใหม่ได้อ้างอิงอยู่บนสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่เป็นไปได้"
เมื่อเดือนที่แล้ว EU ปฏิเสธที่จะให้การรับรองงบประมาณประจำปี 2562 ของอิตาลี พร้อมกับประกาศเตรียมลงโทษอิตาลีด้วยการสั่งปรับเนื่องจากร่างงบประมาณดังกล่าวขัดต่อกฎหมายทางการเงินของ EU หลังจากที่รัฐบาลอิตาลีได้เพิ่มตัวเลขขาดดุลงบประมาณสู่ระดับ 2.4% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในปี 2562 ซึ่งสูงกว่าตัวเลขขาดดุลงบประมาณ 0.8% ของ GDP ของรัฐบาลชุดเดิม
หุ้นแกล็กโซสมิทไคล์น ซึ่งเป็นบริษัทเวชภัณฑ์รายใหญ่ของยุโรป พุ่งขึ้นเกือบ 7% หลังจากสื่อรายงานว่า ทางบริษัทจะร่วมทุนกับไฟเซอร์ ซึ่งเป็นบริษัทยารายใหญ่ของสหรัฐ เพื่อจัดตั้งธุรกิจที่มุ่งเน้นการดูแลสุขภาพสำหรับผู้บริโภค
หุ้นกลุ่มธนาคารของอิตาลีปรับตัวขึ้น โดยหุ้นบังโค บีพีเอ็ม หุ้นอินเทซา ซานเปาโล และหุ้นยูนิเครดิต ต่างก็พุ่งขึ้นราว 4%
หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้นหลังจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกดีดตัวขึ้น โดยหุ้นบีพี พุ่งขึ้น 1% ขณะเดียวกันมีรายงานว่า บีพีกำลังพิจารณาตัดขายสินทรัพย์ในรูปของก๊าซและน้ำมันนอกชายฝั่งสหรัฐ มูลค่า 3 พันล้านดอลลาร์ ส่วนหุ้นโททาล ปรับตัวขึ้น 0.2% และหุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ เพิ่มขึ้น 0.9%
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ปรับตัวขึ้นเช่นกัน โดยหุ้นบีเอชพี บิลลิตัน พุ่งขึ้น 1.3% หุ้นริโอทินโต พุ่งขึ้นเกือบ 2% และหุ้นเกลนคอร์ ปรับตัวขึ้น 1.5%