ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (19 ธ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นแกล็กโซสมิทไคล์น ซึ่งเป็นบริษัทเวชภัณฑ์รายใหญ่ ขณะที่นักลงทุนจับตาผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดยตลาดหุ้นลอนดอนปิดทำการซื้อขายก่อนที่คณะกรรมการเฟดจะแถลงมติการประชุม พร้อมกับจับตาการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ในวันนี้
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,765.94 จุด เพิ่มขึ้น 64.35 จุด หรือ +0.96%
หุ้นแกล็กโซสมิทไคล์น พุ่งขึ้นเกือบ 7% หลังจากสื่อรายงานว่า ทางบริษัทจะร่วมทุนกับไฟเซอร์ ซึ่งเป็นบริษัทยารายใหญ่ของสหรัฐ เพื่อจัดตั้งธุรกิจที่มุ่งเน้นการดูแลสุขภาพสำหรับผู้บริโภค
หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้นหลังจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกดีดตัวขึ้น โดยหุ้นบีพี พุ่งขึ้น 1% ขณะเดียวกันมีรายงานว่า บีพีกำลังพิจารณาตัดขายสินทรัพย์ในรูปของก๊าซและน้ำมันนอกชายฝั่งสหรัฐ มูลค่า 3 พันล้านดอลลาร์ ส่วนหุ้นโททาล ปรับตัวขึ้น 0.2% และหุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ เพิ่มขึ้น 0.9%
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ปรับตัวขึ้นเช่นกัน โดยหุ้นบีเอชพี บิลลิตัน พุ่งขึ้น 1.3% หุ้นริโอทินโต พุ่งขึ้นเกือบ 2% และหุ้นเกลนคอร์ ปรับตัวขึ้น 1.5%
นักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์ที่อังกฤษแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) โดยรายงานล่าสุดระบุว่า ภาคธุรกิจของอังกฤษซึ่งประกอบด้วยสภาหอการค้าอังกฤษ, สมาพันธ์อุตสาหกรรมอังกฤษ, สมาคมผู้ผลิตแห่งอังกฤษ, สหพันธ์ธุรกิจรายย่อย และสถาบันผู้อำนวยการ ได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์นักการเมืองที่มีแต่สร้างความขัดแย้ง แทนที่จะเตรียมการสำหรับ Brexit พร้อมกับเตือนว่า ขณะนี้แทบไม่มีเวลาเพียงพอในการเตรียมพร้อมรับมือกรณีที่อังกฤษแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (EU) โดยไม่มีการทำข้อตกลง เนื่องจากเหลือเวลาอีกเพียง 100 วันก่อนถึงวันที่ 29 มี.ค.2562 ซึ่งอังกฤษจะต้องแยกตัวจาก EU อย่างเป็นทางการ
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดที่มีการเปิดเผยล่าสุดนั้น สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษ (ONS) รายงานว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหราชอาณาจักรเพิ่มขึ้นเพียง 2.3% ในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.ปีที่แล้ว
นักวิเคราะห์ระบุว่า การชะลอตัวของดัชนี CPI จะช่วยผ่อนคลายแรงกดดันของธนาคารกลางอังกฤษในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ทั้งนี้ นักลงทุนจับตาการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ในวันนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่า BoE จะคงนโยบายการเงินในการประชุมครั้งนี้