ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดบวกเล็กน้อย ขณะตลาดจับตาสถานการณ์ในสหรัฐ

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (21 ธ.ค.) ในขณะที่นักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์ในสหรัฐอย่างใกล้ชิด รวมถึงการที่หน่วยงานรัฐบาลสหรัฐอาจต้องถูกปิดการดำเนินงาน เนื่องจากขาดงบประมาณ หรือเข้าสู่ภาวะชัตดาวน์

ดัชนี Stoxx Europe 600 ขยับขึ้น 0.03% ปิดที่ 336.67 จุด

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,633.82 จุด เพิ่มขึ้น 22.72 จุด หรือ +0.21% ขณะที่ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,721.17 จุด เพิ่มขึ้น 9.24 จุด หรือ +0.14% และดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,694.38 จุด เพิ่มขึ้น 1.92 จุด หรือ +0.04%

นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขาย ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับการที่หน่วยงานรัฐบาลสหรัฐอาจต้องถูกปิดการดำเนินงาน เนื่องจากขาดงบประมาณ หรือเข้าสู่ภาวะชัตดาวน์ หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ออกมาทวีตข้อความขู่เมื่อวานนี้ว่า เขาจะไม่ลังเลที่จะทำให้หน่วยงานรัฐบาลต้องถูกปิดการดำเนินงาน ถ้าหากสมาชิกพรรคเดโมแครตในวุฒิสภาปฏิเสธที่จะผ่านร่างกฎหมายงบประมาณที่ได้รับการอนุมัติจากสภาผู้แทนราษฎรก่อนหน้านี้

นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากความตึงเครียดทางการค้าระหว่างจีนและสหรัฐที่ยังดำเนินต่อไป หลังจากกระทรวงยุติธรรมสหรัฐได้ประกาศดำเนินคดีต่อนายจู หัว และนายจ้าง ชิหลง ซึ่งเป็นแฮกเกอร์ชาวจีน ในข้อหาทำการโจรกรรมข้อมูลโดยได้รับความร่วมมือจากรัฐบาลจีน ขณะที่ทางการจีนได้ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าวอย่างหนักแน่น พร้อมทั้งเรียกร้องให้สหรัฐยุติการดำเนินคดีกับ 2 แฮกเกอร์ชาวจีนในทันที

หุ้น Delivery Hero SE บริษัทให้บริการส่งอาหารออนไลน์รายใหญ่ที่สุดในโลก ดีดตัวขึ้นกว่า 10% หลังจากที่บริษัทประกาศขายกิจการในเยอรมนีให้กับ Takeaway.com ในมูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (930 ล้านยูโร)

ขณะที่หุ้นไนกี้ อิงค์ ซึ่งมีการซื้ออยู่ในตลาดเยอรมนีพุ่งขึ้น 9.2% หลังบริษัทเปิดเผยผลประกอบการสูงกว่าคาดในไตรมาส 3 ส่วนหุ้นพูมา เอสอี ปรับตัวขึ้น 2.3% และหุ้นอดิกาส เอจี ขยับขึ้น 0.5%