ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (24 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจของสหรัฐ โดยแม้ว่านายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐได้หารือร่วมกับผู้บริหารของธนาคารรายใหญ่ 6 แห่งเพื่อสร้างความเชื่อมั่นเกี่ยวกับความเพียงพอของสภาพคล่องในตลาด แต่ก็ไม่สามารถบรรเทาความวิตกกังวลของนักลงทุนได้
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดร่วงลง 0.42% แตะที่ระดับ 335.24 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,626.39 จุด ลดลง 67.99 จุด หรือ -1.45% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,685.99 จุด ลดลง 35.18 จุด หรือ -0.52% ส่วนตลาดหุ้นเยอรมันปิดทำการวันจันทร์ที่ 24 ธ.ค. เนื่องในเทศกาลคริสต์มาส
ทั้งนี้ แม้นายมนูชินได้ออกมาสร้างความเชื่อมั่นด้วยการหารือกับ 6 ผู้บริหารธนาคารรายใหญ่ของสหรัฐ แต่ก็ไม่ได้ช่วยให้ตลาดคลายความวิตกกังวลลงได้ นอกจากนี้ นักลงทุนมองว่า การที่นายมนูชินได้เรียกประชุมคณะทำงานด้านตลาดการเงินของประธานาธิบดีสหรัฐ หรือกลุ่มเฉพาะกิจเพื่อป้องกันการทรุดตัวของตลาด (Plunge Protection Team) เมื่อวานนี้ ยังสะท้อนให้เห็นถึงความกังวลที่มีต่อทิศทางเศรษฐกิจในขณะนี้
นอกจากนี้ นักลงทุนยังวิตกกังวลเกี่ยวกับการที่หน่วยงานบางส่วนของสหรัฐเข้าสู่ภาวะชัตดาวน์เป็นวันที่ 3 เมื่อวานนี้ รวมทั้งข่าวลือที่ว่า ปธน.ทรัมป์ต้องการปลดนายพาวเวลออกจากตำแหน่งประธานเฟด หลังจากที่เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 4 ครั้งในปีนี้ โดยปธน.ทรัมป์ได้ออกมาทวีตข้อความโจมตีเฟดอีกครั้งเมื่อวานนี้ ซึ่งระบุว่า "สิ่งที่เป็นปัญหาของเศรษฐกิจสหรัฐก็คือเฟด พวกเขาไม่ยอมรับรู้ถึงความรู้สึกของตลาด"
หุ้นกลุ่มการเงินร่วงลง โดยหุ้นฮิสค็อกซ์ ซึ่งเป็นบริษัทประกัน ดีดตัวขึ้น 2% ขณะที่หุ้นโอลด์ มิวชวล เพิ่มขึ้น 2%
ส่วนหุ้นอินดิเวียร์ ซึ่งเป็นบริษัทเวชภัณพ์ ร่วงลง 9% ขณะที่หุ้นกลุ่มสื่อร่วงลงเช่นกัน นำโดยหุ้น WPP และหุ้นพับลิซิส กรุ๊ป ซึ่งต่างก็ร่วงลงกว่า 2%