ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (2 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก หลังจากมีรายงานว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ของจีน สหรัฐ และยูโรโซน ชะลอตัวลงอย่างมากในเดือนธ.ค.
ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.13% ปิดที่ 337.21 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,689.39 จุด ลดลง 41.30 จุด หรือ -0.87% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,580.19 จุด เพิ่มขึ้น 21.23 จุด หรือ +0.20% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,734.23 จุด เพิ่มขึ้น 6.10 จุด หรือ +0.09%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดอ่อนแรงลง หลังจากไอเอชเอส มาร์กิต เปิดเผยว่า ดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนธ.ค.ของยูโรโซนปรับตัวลงเป็นเดือนที่ 5 สู่ระดับ 51.4 . ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.2559 และต่ำกว่าระดับ 51.8 ในเดือนพ.ย.
ส่วน PMI ภาคการผลิตเดือนธ.ค.ของจีนซึ่งไฉซินได้สำรวจร่วมกับมาร์กิตนั้น อยู่ที่ระดับ 49.7 ลดลงจากเดือนพ.ย.ซึ่งอยู่ที่ระดับ 50.2 โดยดัชนี PMI ภาคการผลิตของจีนขยายตัวต่ำกว่า 50 เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพ.ค. 2560
นอกจากนี้ มาร์กิตยังเปิดเผยว่า ดัชนี PMI ภาคการผลิตของสหรัฐปรับตัวลงสู่ระดับ 53.8 ในเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.ปีที่แล้ว จากระดับ 55.3 ในเดือนพ.ย.
หุ้นไมโคร โฟกัส อินเตอร์เนชันแนล ซึ่งเป็นบริษัทซอฟต์แวร์รายใหญ่ของยุโรป ดิ่งลงกว่า 4%
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ร่วงลงเช่นกัน โดยหุ้นบีเอชพี กรุ๊ป หุ้นอันโตฟากัสตา และหุ้นเกลนคอร์ ต่างก็ร่วงลงกว่า 4% ขณะที่หุ้นแองโกล อเมริกัน ร่วงลงเกือบ 4%
ส่วนหุ้นธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด ร่วงลง 3%