ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (3 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลต่อรายงานข่าวที่ว่า บริษัทแอปเปิล อิงค์ ปรับลดคาดการณ์รายได้ เนื่องจากยอดขาย iPhone ที่ชะลอตัวลงในประเทศจีน นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นเบอร์เบอร์รี่ และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการก่อสร้างของสหราชอาณาจักรที่ขยายตัวต่ำสุดในรอบ 3 เดือน
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,692.66 จุด ลดลง 41.57 จุด หรือ -0.62%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดตลาดอ่อนแรงลง หลังจากแอปเปิล อิงค์ ประกาศปรับลดคาดการณ์รายได้ประจำไตรมาสแรกของปีงบการเงิน 2562 ของบริษัทซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 29 ธ.ค.ที่ผ่านมา จากเดิมที่คาดไว้ในช่วง 8.9-9.3 หมื่นล้านดอลลาร์ ลดลงเหลือ 8.4 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 9.15 หมื่นล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ แอปเปิลระบุว่า การปรับลดคาดการณ์รายได้ในครั้งนี้เป็นผลจากยอดขาย iPhone ที่ชะลอตัวลงในจีน ขณะที่อุปสงค์ของลูกค้าในประเทศอื่นก็ไม่ได้แข็งแกร่งอย่างที่บริษัทคาดการณ์ไว้
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยลบจากรายงานของไอเอชเอส มาร์กิต/ซีไอพีเอส ซึ่งระบุว่า ดัชนี PMI ภาคการก่อสร้างของสหราชอาณาจักร ปรับตัวลงสู่ระดับ 52.8 ในเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือน จากระดับ 53.4 ในเดือนพ.ย.
หุ้นบริษัทสินค้าแบรนด์ดังอย่างเบอร์เบอร์รี่ ร่วงลงกว่า 4% ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน
ส่วนหุ้นบริษัทค้าปลีกดีดตัวขึ้น โดยหุ้นเทสโก และหุ้นมาร์ค แอนด์ สเปนเซอร์ ต่างก็ปรับตัวขึ้นกว่า 2%