ตลาดหุ้นลอนดอนปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (4 ม.ค.) เนื่องจากการพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งของตัวเลขจ้างงานสหรัฐ รวมทั้งดัชนี PMI ภาคบริการของจีนที่ดีดตัวขึ้นในเดือนธ.ค. ช่วยให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจโลก นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากดัชนี PMI ภาคบริการของสหราชอาณาจักรที่ฟื้นตัวขึ้นในเดือนธ.ค.
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,837.42 จุด เพิ่มขึ้น 144.76 จุด หรือ +2.16%
นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก หลังจากมีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐและจีน โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งขึ้น 312,000 ตำแหน่งในเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 10 เดือน และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 177,000 ตำแหน่ง
ส่วนดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการของจีน ซึ่งมาร์กิตจัดทำร่วมกับไฉซิน อยู่ที่ระดับ 53.9 ในเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้นจากระดับ 53.8 ในเดือนพ.ย. โดยดัชนี PMI ภาคบริการเดือนธ.ค.ทำสถิติสูงสุดในรอบ 6 เดือน
นอกจากนี้ ไอเอชเอส มาร์กิต/ซีไอพีเอส เปิดเผยว่า ดัชนี PMI ภาคบริการของสหราชอาณาจักร ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 51.2 ในเดือนธ.ค. จากระดับ 50.4 ในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 28 เดือน
ทั้งนี้ ดัชนีที่เคลื่อนไหวเหนือระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ว่า ภาคบริการของสหราชอาณาจักรยังคงมีการขยายตัว
หุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้น โดยหุ้นจอห์น วู้ด กรุ๊ป พุ่งขึ้นกว่า 4% หุ้นเอเคอร์ บีพี พุ่งขึ้น 4.8%
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ปรับตัวขึ้นเช่นกัน โดยหุ้นอันโตฟากัสตา พุ่งขึ้นกว่า 4% ขณะที่หุ้นเกลนคอร์ และหุ้นแองโกล อเมริกัน ต่างก็ปรับตัวขึ้น 3%