ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าปรับตัวขึ้น จากอานิสงส์เจรจาการค้าจีนและสหรัฐ

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday January 9, 2019 11:49 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าวันนี้ปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากตลาดได้รับปัจจัยสนับสนุนจากแนวโน้มที่เป็นบวกของการเจรจาเรื่องการค้าระหว่างผู้แทนจีนและสหรัฐ อย่างไรก็ดี นักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์ชัตดาวน์ของสหรัฐ หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ไม่ได้ระบุถึงแนวทางการแก้ปัญหาการเมืองในประเทศอันเนื่องมาจากภาวะชัตดาวน์ในขณะที่กล่าวสุนทรพจน์เรื่องการสร้างกำแพงบริเวณชายแดนสหรัฐและเม็กซิโก

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 20,455.74 จุด เพิ่มขึ้น 251.70 จุด, +1.25% ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 26,512.06 จุด เพิ่มขึ้น 636.61 จุด, +2.46% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดภาคเช้าที่ 1,679.86 จุด เพิ่มขึ้น 7.10 จุด, +0.42%

นายสตีเวน วินเบิร์ก เจ้าหน้าที่กระทรวงพลังงานสหรัฐ เปิดเผยกับสื่อมวลชนที่กรุงปักกิ่งว่า การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนจะยังคงดำเนินต่อไปในวันนี้ จากเดิมที่มีกำหนดเสร็จสิ้นเมื่อวานนี้ พร้อมระบุว่า การเจรจาของทั้งฝ่ายดำเนินไปด้วยดี

"การเจรจาตลอดระเวลา 2 วันที่ผ่านมา เป็นไปด้วยดี และผมยืนยันว่าการเจรจาจะดำเนินต่อไปในวันนี้" นายวินเบิร์กกล่าว

คำยืนยันของนายวินเบิร์กมีขึ้นหลังจากสื่อต่างประเทศหลายสำนักรายงานข่าวเกี่ยวกับการยืดเวลาการเจราจา โดยสำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนจะยังคงดำเนินต่อไปในวันนี้ จากเดิมที่มีกำหนดเสร็จสิ้นเมื่อวานนี้ ขณะที่สำนักข่าวดาวโจนส์รายงานว่า ทั้งสองฝ่ายสามารถลดช่องว่างบางส่วนของความคิดเห็นที่แตกต่างกัน โดยการเจรจามีความคืบหน้าจากการที่จีนเห็นพ้องที่จะเพิ่มการซื้อสินค้าและบริการจากสหรัฐ

ทรัมป์ได้แถลงที่ห้องทำงานรูปไข่ในทำเนียบขาววันนี้ เพื่อชี้แจงเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลและสภาคองเกรสในการสร้างกำแพงกั้นชายแดนทางตอนใต้ของประเทศ ซึ่งได้ส่งผลกระทบต่อการอนุมัติงบประมาณสำหรับหน่วยงานรัฐบาล จนทำให้หน่วยงานหลายแห่งต้องปิดการดำเนินงาน หรือชัตดาวน์

ทั้งนี้ ปธน.ทรัมป์กล่าวว่า กำแพงกั้นพื้นที่ชายแดนตอนใต้ซึ่งมีพรมแดนติดกับเม็กซิโกนั้น จะช่วยป้องกันการลักลอบการขนยาเสพติดข้ามแดน พร้อมระบุว่า ชาวอเมริกันได้รับความเดือดร้อนจากการลักลอบเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมายและไม่สามารถควบคุมได้ นอกจากนี้ ทรัมป์เตือนว่า ชาวอเมริกันหลายพันคนได้ถูกสังหารโดยไม่มีการดำเนินการที่เฉียบขาดในพื้นที่ชายแดน

ในวันนี้ ธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) ได้เปิดเผยรายงานคาดการณ์ว่า อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มชะลอตัวลงแตะ 2.9% ในปี 2562 ซึ่งลดลงจากระดับ 3% ในปี 2561 ท่ามกลางแรงกดดันจากปัจจัยต่างๆ

รายงานคาดการณ์เศรษฐกิจโลกฉบับล่าสุดระบุว่า เศรษฐกิจโลกในปีนี้มีแนวโน้ม "ชะลอตัวลง" เนื่องจากธนาคารกลางในหลายประเทศเริ่มหันมาใช้นโยบายคุมเข้มทางการเงิน รวมทั้งความตึงเครียดทางการค้าที่ทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น ขณะที่ประเทศรายใหญ่ในกลุ่มตลาดเกิดใหม่และประเทศกำลังพัฒนายังคงประสบปัญหาด้านวิกฤตตลาดการเงิน

นางคริสทาลินา จอร์จีวา ผู้บริหารธนาคารโลกกล่าวในแถลงการณ์ว่า "ในช่วงต้นปี 2561 เศรษฐกิจโลกมีการขยายตัวที่แข็งแกร่ง แต่ก็เริ่มชะลอตัวลงในช่วงกลางปี และคาดว่าจะเป็นเช่นนี้ต่อไปในปี 2562"


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ