ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ร่วงลงเกือบ 100 จุดในวันนี้ บ่งชี้ว่าตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะปรับตัวลงในคืนนี้ ขณะที่นักลงทุนรอความชัดเจนของผลการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน
นอกจากนี้ คาดว่าตลาดจะถูกกดดันจากการดิ่งลงของราคาหุ้นในกลุ่มค้าปลีก หลังเปิดเผยบอดขายที่ซบเซาในช่วงเทศกาลวันหยุด
ณ เวลา 21.04 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ลบ 98 จุด หรือ 0.41% สู่ระดับ 23,732 จุด
ทั้งนี้ การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนได้สิ้นสุดลงเมื่อวานนี้ โดยกระทรวงพาณิชย์จีนออกแถลงการณ์ระบุว่า ทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันอย่างละเอียด และครอบคลุมเกี่ยวกับปัญหาเชิงโครงสร้างที่เป็นข้อกังวลร่วมกัน ซึ่งจะช่วยส่งเสริมความเข้าใจระหว่างกันและปูทางในการแก้ไขความกังวลของแต่ละฝ่าย ขณะที่สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) เปิดเผยว่า จีนได้ให้คำมั่นสัญญาที่จะซื้อสินค้าจำนวนมากจากสหรัฐ ทั้งในด้านการเกษตร พลังงาน รวมทั้งสินค้าในภาคการผลิตและบริการ ซึ่งทาง USTR จะหามาตรการเพื่อทำให้มั่นใจว่า จีนจะดำเนินการตามที่ได้ให้สัญญาไว้
ส่วนในอนาคตอันใกล้ สหรัฐและจีนจะจัดการประชุมระดับรัฐมนตรี โดยนายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ และนายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีน ซึ่งเป็นที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง จะเข้าร่วมการประชุม
อย่างไรก็ดี ยังไม่มีการประกาศกำหนดการเจรจาการค้าในรอบต่อไปของทั้ง 2 ฝ่าย
หากสหรัฐและจีนไม่สามารถบรรลุข้อตกลงทางการค้าก่อนวันที่ 2 มี.ค. ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ก็จะเดินหน้าเพิ่มการเรียกเก็บภาษีนำเข้าต่อสินค้าจีนมูลค่า 2 แสนล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 25% จากเดิม 10% ในขณะนี้
ราคาหุ้นของห้างเมซี่ ซึ่งเป็นห้างสรรพสินค้ารายใหญ่ของสหรัฐ ดิ่งลงกว่า 18% ในการซื้อขายก่อนเปิดตลาดหุ้นวอลล์สตรีทวันนี้ หลังบริษัทเปิดเผยยอดขายที่ซบเซาในช่วงเทศกาลวันหยุดที่ผ่านมา รวมทั้งมีการปรับลดตัวเลขคาดการณ์ยอดขาย และกำไรต่อหุ้นสำหรับปีงบการเงิน 2561
ทั้งนี้ เมซี่เปิดเผยว่า ยอดขายของบริษัทผ่านทางห้างในสาขาต่างๆ รวมทั้งผ่านทางเว็บไซต์ เพิ่มขึ้นเพียง 1.1% ในช่วงเทศกาลวันหยุดในปลายปี 2561
นอกจากนี้ เมซี่ได้ปรับลดคาดการณ์ยอดขายของปีงบการเงิน 2561 โดยคาดว่าจะไม่มีการขยายตัว จากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัว 0.3-0.7% และปรับลดตัวเลขคาดการณ์กำไรต่อหุ้น สู่ระดับ 3.95-4.00 ดอลลาร์ จากเดิมที่ระดับ 4.10-4.30 ดอลลาร์ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 4.23 ดอลลาร์
ส่วนราคาหุ้นของบริษัทโคห์ล คอร์ป ซึ่งเป็นห้างค้าปลีกยักษ์ใหญ่ของสหรัฐ ร่วงลงกว่า 6% ในการซื้อขายก่อนเปิดตลาดหุ้นวอลล์สตรีทวันนี้ หลังบริษัทเปิดเผยว่า ยอดขายของบริษัทในช่วงเทศกาลวันหยุดที่ผ่านมามีการขยายตัวต่ำกว่าในปีก่อนหน้านี้
ทั้งนี้ โคห์ลเปิดเผยว่า ยอดขายของบริษัทผ่านทางห้างในสาขาต่างๆ รวมทั้งผ่านทางเว็บไซต์ เพิ่มขึ้น 1.2% ในช่วงเทศกาลวันหยุดในปลายปี 2561 โดยต่ำกว่าระดับ 7% ในปีก่อนหน้านี้
รายงานดังกล่าว ส่งผลให้ราคาหุ้นของโคห์ลดิ่งลงกว่า 6% ในการซื้อขายก่อนเปิดตลาดหุ้นวอลล์สตรีทวันนี้ แม้ว่าบริษัทมีการปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์กำไรต่อหุ้นสำหรับปีงบการเงิน 2561 สู่ระดับ 5.50-5.55 ดอลลาร์ จากเดิมที่ 5.35-5.55 ดอลลาร์ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 5.52 ดอลลาร์