ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (10 ม.ค.) ตามทิศทางตลาดหุ้นยุโรปที่ปิดในแดนบวกเมื่อคืนนี้ โดยหุ้นกลุ่มค้าปลีกดีดตัวขึ้นนำตลาด ขณะที่หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ร่วงลงจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน หลังจากทางการจีนเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิตขยายตัวเพียงเล็กน้อยในเดือนธ.ค.
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,942.87 จุด เพิ่มขึ้น 36.24 จุด หรือ +0.52%
หุ้นเทสโก้ ดีดตัวขึ้น 0.9% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายที่แข็งแกร่งในช่วงเทศกาลคริสต์มาส ขณะที่หุ้นเจ เซนส์บิวรี พุ่งขึ้น 2% หุ้นดับบลิวเอ็ม มอร์ริสัน พุ่งขึ้นเกือบ 1% และหุ้นมาร์ค แอนด์ สเปนเซอร์ ขยับขึ้น 0.4%
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ร่วงลง โดยหุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ดิ่งลงเกือบ 6% และหุ้นเกลนคอร์ ลดลง 0.5% หลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานเมื่อวานนี้ว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดต้นทุนสินค้าที่หน้าประตูโรงงาน ขยายตัว 0.9% ในเดือนธ.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งชะลอตัวลงอย่างมากเมื่อเทียบกับเดือนพ.ย.ที่มีการขยายตัวอย่างแข็งแกร่งถึง 2.7%
นักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์การแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) โดยขณะนี้สมาชิกรัฐสภาอังกฤษกำลังอภิปรายร่างข้อตกลง Brexit และจะปิดการอภิปรายในวันที่ 15 ม.ค. ก่อนที่จะมีการลงมติในวันดังกล่าว
ทางด้านนายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ได้หารือกับนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ที่กรุงลอนดอนเมื่อวานนี้ ในระหว่างการเดินทางเยือนอังกฤษ โดยนายอาเบะได้เรียกร้องให้นางเมย์หลีกเลี่ยงสถานการณ์ Brexit แบบไร้ข้อตกลง โดยนายอาเบะแจ้งต่อนางเมย์ให้หาทางลดผลกระทบจากปัจจัย Brexit ที่อาจมีต่อเศรษฐกิจโลก และบริษัทญี่ปุ่นที่ดำเนินธุรกิจในยุโรป