ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (23 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก รวมทั้งข้อพิพาทการค้าระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากสื่อรายงานว่า ทำเนียบขาวได้ยกเลิกแผนการจัดการเจรจาการค้ากับจีนในสัปดาห์นี้
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดลบ 0.06% ปิดที่ 354.89 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,071.54 จุด ลดลง 18.57 จุด หรือ -0.17% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,840.38 จุด ลดลง 7.15 จุด หรือ -0.15% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,842.88 จุด ลดลง 58.51 จุด หรือ -0.85%
ตลาดหุ้นยุโรปยังคงได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก หลังจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลก พร้อมกับเตือนว่าเศรษฐกิจยังคงเผชิญกับปัจจัยเสี่ยงหลายประการ ซึ่งรวมถึงความเสี่ยงจากการที่อังกฤษอาจแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) โดยไม่มีการทำข้อตกลง และเศรษฐกิจจีนที่มีแนวโน้มชะลอตัวลงอีก
ทั้งนี้ IMF คาดว่าเศรษฐกิจโลกจะมีการขยายตัว 3.5% ในปีนี้ และ 3.6% ในปีหน้า ซึ่งต่ำกว่าระดับ 3.7% สำหรับทั้ง 2 ปีที่มีการคาดการณ์ในเดือนต.ค.ปีที่แล้ว โดยนับเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 3 เดือนที่ IMF ปรับลดตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจโลก
นอกจากนี้ ตลาดยังวิตกกังวลต่อรายงานของสื่อต่างประเทศซึ่งระบุว่า ทำเนียบขาวได้ยกเลิกแผนการจัดการเจรจาการค้ากับจีนในสัปดาห์นี้ เนื่องจากทั้ง 2 ฝ่ายยังคงมีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน อย่างไรก็ดี นายแลร์รี่ คุดโลว์ ที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาว ได้ปฏิเสธรายงานดังกล่าวในเวลาต่อมา
หากจีนและสหรัฐไม่สามารถตกลงกันเกี่ยวกับแนวทางแก้ไขปัญหาที่ถาวร ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ก็จะเดินหน้าเพิ่มการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีนมูลค่า 2 แสนล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 25% จากเดิม 10% ในขณะนี้
หุ้นดอยซ์แบงก์ ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่ของเยอรมนี และหุ้น Danske Bank ซึ่งเป็นธนาคารของเดนมาร์ก ต่างก็ร่วงลงกว่า 1% หลังจากสื่อต่างประเทศหลายสำนักรายงานโดยอ้างสำนักข่าวบลูมเบิร์กว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กำลังดำเนินการตรวจสอบว่า ดอยซ์แบงก์ มีส่วนพัวพันกับกรณีการฟอกเงินของธนาคาร Danske Bank สาขาเอสโตเนียหรือไม่
หุ้นเบอร์เบอร์รี่ ร่วงลง 2% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ต่ำกว่าคาด
หุ้นเอเอสเอ็มแอล โฮลดิ้งส์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตเซมิคอนดัคเตอร์ ร่วงลง 3% ขณะที่หุ้นอันโตฟากัสตา ซึ่งเป็นบริษัทเหมืองรายใหญ่ และหุ้นเฟรสนิลโล ผู้ประกอบการเหมืองทองคำ ต่างก็ร่วงลงเกือบ 1%
หุ้นเมโทรแบงก์ ร่วงลง 28% หลังจากธนาคารเปิดเผยผลประกอบการที่ย่ำแย่ในไตรมาส 4/2561
อย่างไรก็ตาม หุ้นผู้ประกอบการซูเปอร์มาร์เก็ตของอังกฤษดีดตัวขึ้น โดยหุ้นเทสโก้ พุ่งขึ้นกว่า 1% หุ้นดับบลิวเอ็ม มอร์ริสัน พุ่งขึ้น 2% และหุ้นเจ เซนส์บิวรี เพิ่มขึ้น 1%