ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องในวันนี้ ล่าสุดทะยานกว่า 350 จุด ขานรับผลประกอบการที่สดใสของบริษัทโบอิ้ง และแอปเปิล
ณ เวลา 00.12 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 24,949.59 จุด เพิ่มขึ้น 369.63 จุด หรือ 1.5%
ราคาหุ้นของบริษัทโบอิ้งพุ่งขึ้นกว่า 6% หลังเปิดเผยว่า ทางบริษัทมีกำไร และรายได้ในไตรมาส 4 สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ โดยบริษัทมีกำไรที่ระดับ 3.58 ดอลลาร์/หุ้น และมีรายได้ 2.515 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า บริษัทจะมีกำไรที่ระดับ 3.47 ดอลลาร์/หุ้น และมีรายได้ 2.397 หมื่นล้านดอลลาร์
ราคาหุ้นของบริษัทแอปเปิลทะยานขึ้นมากกว่า 4% หลังรายงานผลประกอบการประจำไตรมาส 1/2562 ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 29 ธ.ค.2561 ตามปีงบการเงินของบริษัท โดยระบุว่า บริษัทมีกำไร 4.18 ดอลลาร์/หุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ระดับ 4.17 ดอลลาร์/หุ้น และบริษัทมีรายได้ที่ระดับ 8.43 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ระดับ 8.397 หมื่นล้านดอลลาร์
บริษัทแมคโดนัลด์ คอร์ป รายงานตัวเลขกำไร และรายได้ประจำไตรมาส 3 สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
ทั้งนี้ แมคโดนัลด์เปิดเผยว่า ทางบริษัทมีรายได้ที่ระดับ 5.37 พันล้านดอลลาร์ สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ 5.32 พันล้านดอลลาร์
นอกจากนี้ บริษัทมีกำไรที่ระดับ 1.97 ดอลลาร์/หุ้น สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 1.89 ดอลลาร์/หุ้น
ขณะเดียวกัน ยอดขายของบริษัทมีการขยายตัว 4.4% สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ 3.90%
นักลงทุนจับตาผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในคืนนี้ ซึ่งนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ และเฟดจะทำการตัดสินใจเกี่ยวกับกำหนดเวลาในการยุติการปรับลดการถือครองพันธบัตรในงบดุลของเฟด
หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัลรายงานว่า เฟดอาจยุติการปรับลดงบดุลเร็วกว่าที่คาดไว้ก่อนหน้านี้ ซึ่งทำให้มีการคาดการณ์ว่าเฟดจะชะลอการปรับนโยบายการเงินสู่ภาวะปกติ และบ่งชี้ว่าเฟดจะไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ จากเดิมที่เฟดส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้
นักลงทุนจับตาปัจจัยดังกล่าว เนื่องจากจะเป็นสิ่งบ่งชี้ว่าเฟดจะคุมเข้มนโยบายการเงินนานเท่าใด หลังจากที่การปรับลดงบดุลของเฟดเป็นปัจจัยกดดันตลาดก่อนหน้านี้
ทั้งนี้ เฟดได้เริ่มการปรับลดงบดุลในเดือนต.ค.2560 โดยขณะนั้นงบดุลของเฟดมีมูลค่าสูงกว่า 4.5 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งในการปรับลดงบดุลนั้น เฟดจะปล่อยให้พันธบัตรจำนวนหนึ่งครบอายุโดยไม่มีการนำรายได้ไปลงทุนในพันธบัตรใหม่ ซึ่งวงเงินการปรับลดงบดุลสูงสุดคือ 5 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน ส่วนเมื่อเดือนที่แล้ว เฟดได้ปรับลดงบดุล 3.4 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่วงเงินการปรับลดงบดุลทั้งหมดของเฟดอยู่ที่ระดับ 4 แสนล้านดอลลาร์
ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) และมูดี้ส์ อนาลิติกส์ เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้น 213,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค. โดยสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 178,000 ตำแหน่ง
การจ้างงานในภาคบริการเพิ่มขึ้น 145,000 ตำแหน่ง ส่วนภาคการผลิตมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 68,000 ตำแหน่ง
การจ้างงานของภาคเอกชนที่เพิ่มขึ้นมากกว่าคาดในเดือนม.ค. ไม่ได้รับผลกระทบจากการปิดหน่วยงานรัฐบาล (ชัตดาวน์) ที่ยาวนานเป็นประวัติการณ์ของสหรัฐ
ผลการสำรวจนักวิเคราะห์ระบุว่า ในวันศุกร์นี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐจะรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 168,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค.
เมื่อเดือนที่แล้ว กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งขึ้นเกินคาดในเดือนธ.ค. โดยเพิ่มขึ้น 312,000 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 10 เดือน โดยสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 177,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราการว่างงานดีดตัวสู่ระดับ 3.9% สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะทรงตัวที่ระดับ 3.7% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 49 ปี
คณะเจ้าหน้าที่สหรัฐและจีนได้เริ่มการเจรจาการค้าที่กรุงวอชิงตันในวันนี้แล้ว โดยมีกำหนด 2 วัน ขณะที่ทั้ง 2 ฝ่ายจะหารือกันเพื่อแก้ไขความขัดแย้งทางการค้า ก่อนถึงกำหนดเส้นตายในเดือนมี.ค.
คาดว่าการเจรจาของทั้ง 2 ฝ่ายจะดำเนินไปอย่างตึงเครียดในประเด็นการปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาของสหรัฐ และการยุตินโยบายของจีนในการบังคับให้บริษัทสหรัฐถ่ายโอนเทคโนโลยีให้แก่บริษัทจีน
หากสหรัฐและจีนไม่สามารถบรรลุข้อตกลงทางการค้าก่อนวันที่ 2 มี.ค. ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ก็จะเดินหน้าเพิ่มการเรียกเก็บภาษีนำเข้าต่อสินค้าจีนมูลค่า 2 แสนล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 25% จากเดิม 10% ในขณะนี้