ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดพุ่ง 434.90 จุด ขานรับเฟดย้ำสัญญาณไม่เร่งขึ้นดอกเบี้ย

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday January 31, 2019 06:27 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 400 จุดเมื่อคืนนี้ (30 ม.ค.) หลังจากที่ประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยตามคาด พร้อมกับย้ำว่า เฟดจะใช้ความอดทนต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในครั้งต่อไป นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ ซึ่งรวมถึงโบอิ้ง และแอปเปิล อิงค์

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,014.86 จุด พุ่งขึ้น 434.90 จุด หรือ +1.77% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,681.05 จุด เพิ่มขึ้น 41.05 จุด หรือ +1.55% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,183.08 จุด เพิ่มขึ้น 154.79 จุด หรือ +2.20%

ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างคึกคักเมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนขานรับผลการประชุมเฟดซึ่งส่งสัญญาณถึงการไม่เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย รวมทั้งผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่อย่างโบอิ้ง, แอปเปิล อิงค์ และแมคโดนัลด์ โดยปัจจัยดังกล่าวช่วยหนุนดัชนีหลักทั้ง 3 ดัชนีปิดที่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 6 ธ.ค. 2561 และยังช่วยหนุนดัชนีดาวโจนส์ให้สามารถกลับมายืนเหนือแนวต้านที่ระดับ 25,000 จุดได้เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 1 เดือน

คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติเป็นเอกฉันท์ในการคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 2.25-2.50% ในการประชุมเมื่อวานนี้ตามคาด พร้อมระบุในแถลงการณ์ว่า เฟดจะใช้ความอดทนต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในครั้งต่อไป โดยจะจับตาภาวะเศรษฐกิจ

ขณะเดียวกัน แถลงการณ์ของเฟดได้ตัดข้อความ "เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป" ซึ่งเป็นถ้อยคำที่บ่งชี้ถึงการส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด และเฟดได้ทดแทนด้วยข้อความที่ว่า "เฟดกำลังดำเนินแนวทางที่มีความระมัดระวังมากขึ้น" ซึ่งบ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงจากนโยบายเดิมที่เฟดใช้ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

ในส่วนของการปรับลดงบดุลนั้น แถลงการณ์ระบุว่า เฟดพร้อมที่จะทำการพิจารณาใหม่เกี่ยวกับการปรับลดการถือครองพันธบัตรในงบดุลของเฟด หากสภาวะเศรษฐกิจบ่งชี้ถึงความจำเป็นดังกล่าว โดยเฟดคาดหวังว่าวงเงินในงบดุลจะยังคงอยู่ในระดับสูง หลังจากที่เฟดเสร็จสิ้นการปรับลดงบดุล

ทั้งนี้ แถลงการณ์ระบุว่า "เฟดเตรียมที่จะใช้เครื่องมือทั้งหมด ซึ่งรวมถึงการปรับขนาดและองค์ประกอบในงบดุล ถ้าหากภาวะเศรษฐกิจในอนาคตทำให้เฟดมีความจำเป็นที่จะต้องใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายมากขึ้นกว่าการใช้เพียงการปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น"

หุ้นโบอิ้ง พุ่งขึ้น 6.25% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรในไตรมาส 4/2561 ที่ระดับ 3.58 ดอลลาร์/หุ้น และมีรายได้ 2.515 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่ากำไรของโบอิ้งจะอยู่ที่ 3.47 ดอลลาร์/หุ้น และรายได้จะอยู่ที่ 2.397 หมื่นล้านดอลลาร์

หุ้นแอปเปิล ทะยานขึ้น 6.83% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการประจำไตรมาส 1/2562 ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 29 ธ.ค.2561 ตามปีงบการเงินของบริษัท โดยระบุว่า บริษัทมีกำไร 4.18 ดอลลาร์/หุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ระดับ 4.17 ดอลลาร์/หุ้น และรายได้อยู่ที่ระดับ 8.43 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 8.397 หมื่นล้านดอลลาร์

หุ้นแมคโดนัลด์ ปิดตลาดขยับลง 0.2% หลังจากที่ราคาหุ้นพุ่งขึ้นในระหว่างวัน ภายหลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้ในไตรมาส 4/2561 ที่ระดับ 5.37 พันล้านดอลลาร์ สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 5.32 พันล้านดอลลาร์ และกำไรอยู่ที่ระดับ 1.97 ดอลลาร์/หุ้น สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ 1.89 ดอลลาร์/หุ้น

หุ้นอาลีบาบา ยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซของจีนซึ่งจดทะเบียนในตลาดหุ้นนิวยอร์ก พุ่งขึ้น 6.3% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการในไตรมาสที่สิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค. ซึ่งเป็นไตรมาส 3 ของปีงบการเงินบริษัท โดยระบุว่าบริษัทมีกำไรสุทธิ 3.096 หมื่นล้านหยวน ซึ่งสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้นตามทิศทางราคาน้ำมัน WTI หลังจากสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าตัวเลขคาดการณ์ โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล พุ่งขึ้น 1.03% หุ้นเชฟรอน เพิ่มขึ้น 1.06% หุ้นอ็อคซิเดนเชียล ปิโตรเลียม เพิ่มขึ้น 0.74% หุ้นเดวอน เอนเนอร์จี ทะยานขึ้น 3.05% หุ้นมาราธอน ปิโตรเลียม เพิ่มขึ้น 1.86% หุ้นเชซาพีค เอนเนอร์จี พุ่งขึ้น 3.76% และหุ้นฮัลลิเบอร์ตัน พุ่งขึ้น 2.3%

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) และมูดี้ส์ อนาลิติกส์ เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้น 213,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค. ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 178,000 ตำแหน่ง ขณะที่สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) ลดลง 2.2% ในเดือนธ.ค. เมื่อเทียบรายเดือน สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าปรับตัวขึ้น 0.5%

นักลงทุนจับตาการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนซึ่งเริ่มเปิดฉากขึ้นที่กรุงวอชิงตันเมื่อวานนี้และจะเสร็จสิ้นในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ โดยทั้งสองฝ่ายหารือกันเพื่อแก้ไขความขัดแย้งทางการค้า ก่อนถึงกำหนดเส้นตายในเดือนมี.ค.

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนม.ค.ของสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันพรุ่งนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานเดือนม.ค.จะเพิ่มขึ้น 168,000 ตำแหน่ง

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนม.ค.จากมาร์กิต และดัชนีภาคการผลิตเดือนม.ค. จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM)


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ