ตลาดหุ้นลอนดอนปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (30 ม.ค.) เนื่องจากการอ่อนค่าของเงินปอนด์ช่วยหนุนหุ้นบริษัทข้ามชาติ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มเหมืองแร่ที่ดีดตัวขึ้น
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,941.63 จุด เพิ่มขึ้น 107.70 จุด หรือ +1.58%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดในแดนบวกเมื่อคืนนี้ เนื่องจากการอ่อนค่าของเงินปอนด์ช่วยหนุนหุ้นของบริษัทข้ามชาติที่จดทะเบียนในดัชนี FTSE 100 โดยรายได้ 75% ของบริษัทข้ามชาติที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ลอนดอนนั้นอยู่ในรูปของสกุลเงินต่างประเทศ ด้วยเหตุนี้ การอ่อนค่าของเงินปอนด์จึงเป็นปัจจัยหนุนหุ้นของบริษัทเหล่านี้
สกุลเงินปอนด์อ่อนค่าลงในระหว่างการซื้อขายที่ตลาดลอนดอนเมื่อคืนนี้ หลังจากรัฐสภาอังกฤษได้ลงมติต่อร่างแก้ไขข้อตกลงว่าด้วยการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ที่มีการเสนอมาจากสมาชิกรัฐสภา โดยการลงมติของสมาชิกรัฐสภาเมื่อวันอังคารที่ผ่านมานั้น ไม่ใช่เป็นการลงมติต่อร่างข้อตกลง Brexit ฉบับใหม่ของนางเมย์ แต่เป็นร่างแก้ไขข้อตกลง Brexit ของนางเมย์ที่มีการเสนอมาจากสมาชิกรัฐสภา ซึ่งมีอยู่ทั้งหมด 7 ฉบับ
ผลการลงมติของสมาชิกสภาสามัญชนเมื่อวันอังคารบ่งชี้ว่า รัฐสภาต้องการให้นางเมย์กลับไปเจรจาต่อรองข้อตกลง Brexit กับผู้นำ EU อีกครั้งหนึ่ง โดยเฉพาะในประเด็นนโยบาย Backstop หลังจากที่รัฐสภาได้คว่ำร่างข้อตกลง Brexit ฉบับแรกที่นางเมย์ทำไว้กับผู้นำ EU ก่อนหน้านี้
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ดีดตัวขึ้น โดยหุ้นริโอทินโต และหุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ต่างก็พุ่งขึ้นกว่า 2% ขณะที่หุ้นเกลนคอร์ ทะยานขึ้น 3.7% และหุ้นเฟรสนิลโล ปรับตัวขึ้น 1.6%
หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้นตามทิศทางราคาน้ำมันในตลาดโลก โดยหุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ พุ่งขึ้น 2.4% และหุ้นบีพี เพิ่มขึ้น 1.7%