ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (4 ก.พ.) โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มอุตสาหกรรม ท่ามกลางความหวังที่ว่าความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีนจะเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาผลประกอบการของบริษัทอัลฟาเบท ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล และการแถลงนโยบายประจำปี (State of the Union) ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ ซึ่งจะมีขึ้นในช่วงเช้าวันพรุ่งนี้ตามเวลาไทย
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,239.37 จุด เพิ่มขึ้น 175.48 จุด หรือ +0.70% ขณะที่ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,347.54 จุด เพิ่มขึ้น 83.67 จุด หรือ +1.15% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,724.87 จุด เพิ่มขึ้น 18.34 จุด หรือ +0.68%
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มอุตสาหกรรมดีดตัวขึ้นขานรับความหวังที่ว่า ความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีนจะเป็นไปทิศทางที่ดีขึ้น โดยปธน.ทรัมป์ และปธน.สี จิ้นผิง จะประชุมหารือร่วมกันในเดือนนี้ ซึ่งเป็นการประชุมที่มีความสำคัญต่อการเจรจาแก้ไขความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน เพราะหากทั้ง 2 ฝ่ายยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงทางการค้าก่อนวันที่ 2 มี.ค. ปธน.ทรัมป์ก็จะเดินหน้าเพิ่มการเรียกเก็บภาษีนำเข้าต่อสินค้าจีนมูลค่า 2 แสนล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 25% จากเดิม 10% ในขณะนี้
ดัชนีหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีดีดตัวขึ้น 1.6% โดยหุ้นเฟซบุ๊ก พุ่งขึ้น 2.14% หุ้นแอปเปิล ดีดตัวขึ้น 2.84% หุ้นเน็ตฟลิกซ์ พุ่งขึ้น 3.4% หุ้นอัลฟาเบท เพิ่มขึ้น 2.04% หุ้น Nvidia ทะยานขึ้น 3.07% หุ้นซิสโก ซิสเต็มส์ เพิ่มขึ้น 0.02% และหุ้นอินเทล พุ่งขึ้น 1.01%
ดัชนีหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมพุ่งขึ้น 1.3% โดยหุ้นโบอิ้ง พุ่งขึ้น 2.46% หุ้น 3M เพิ่มขึ้น 0.53% หุ้นยูไนเต็ด เทคโนโลยี เพิ่มขึ้น 0.1% หุ้นเอเมอร์สัน อิเล็กทริก พุ่งขึ้น 1.5% หุ้นอีตัน คอร์ป เพิ่มขึ้น 0.8% และหุ้นเจเนอรัล อิเล็กทริก (GE) ปรับตัวขึ้น 0.2%
หุ้นเทสลา อิงค์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของสหรัฐ ปรับตัวขึ้น 0.2% หลังจากเทสลาประกาศแผนซื้อกิจการของบริษัทแม็กซ์เวลล์ เทคโนโลยีส์ ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีด้านพลังงาน ด้วยวงเงิน 218 ล้านดอลลาร์ โดยเทสลาจะซื้อหุ้นของแม็กซ์เวลล์จำนวน 45.9 ล้านหุ้นในราคาหุ้นละ 4.75 ดอลลาร์/หุ้น ซึ่งเป็นราคาที่สูงกว่าถึง 55% เมื่อเทียบกับราคาปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ที่ระดับ 3.07 ดอลลาร์/หุ้น
หุ้นปาปา จอห์นส อินเตอร์เนชันแนล ขานรับรายงานข่าวที่ว่า บริษัทสตาร์บอร์ด แวลู ประกาศทุ่มเงินลงทุนมูลค่า 200 ล้านดอลลาร์ในปาปา จอห์นส อินเตอร์เนชันแนล
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากผลประกอบการที่สดใสของบริษัทจดทะเบียน โดยข้อมูลจากรีฟินิทีฟระบุว่า 71% ของบริษัทที่จดทะเบียนในดัชนี S&P500 ได้เปิดเผยผลประกอบการที่สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
หุ้นคลอร็อกซ์ ผู้ผลิตสินค้าเพื่อผู้บริโภคได้เปิดเผยรายได้และกำไรที่สูงเกินคาดในไตรมาส 4/2561 ซึ่งช่วยหนุนราคาหุ้นของบริษัทปิดตลาดพุ่งขึ้น 5.7%
หุ้นอัลทิเมท ซอฟต์แวร์ กรุ๊ป ทะยานขึ้น 20% หลังจากอัลทิเมท ซอฟต์แวร์ ตกลงรับข้อเสนอซื้อกิจการจากบริษัทเฮลล์แมน แอนด์ ฟรายด์แมน ในวงเงิน 1.1 หมื่นล้านดอลลาร์
นักลงทุนจับตาปธน.ทรัมป์ซึ่งมีกำหนดแถลงนโยบายประจำปีต่อสภาคองเกรสสหรัฐในคืนนี้เวลา 21.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือตรงกับช่วงเช้าวันพุธเวลา 09.00 น.ตามเวลาไทย ซึ่งการแถลงนโยบายประจำปีของทรัมป์ในครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 2 และได้รับความสนใจจากสื่อทั่วโลก โดยจะมีการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ต่อชาวสหรัฐทั่วประเทศ ขณะที่สำนักข่าว CNN ก็จะออกอากาศสดไปทั่วโลกเช่นกัน
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่ได้มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า คำสั่งซื้อภาคโรงงานของสหรัฐลดลง 0.6% ในเดือนพ.ย. สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.2% โดยคำสั่งซื้อภาคโรงงานได้รับผลกระทบจากการดิ่งลงของคำสั่งซื้อเครื่องจักร และอุปกรณ์ไฟฟ้า
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ได้แก่ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนม.ค.จากมาร์กิต, ดัชนีภาคบริการเดือนม.ค. จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM), ดุลการค้าเดือนพ.ย., ผลิตภาพ-ต้นทุนแรงงานต่อหน่วยไตรมาส 4/2561 และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์