ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (4 ก.พ.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานรายใหญ่ของอังกฤษ อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มเหมืองแร่อ่อนแรงลง หลังจากมีรายงานว่า ดัชนี PMI ภาคบริการของจีนชะลอตัวลงในเดือนม.ค.
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,034.13 จุด เพิ่มขึ้น 13.91 จุด หรือ +0.20%
หุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ ซึ่งปิดตลาดพุ่งขึ้น 2% โดยราคาหุ้นเชลล์ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรในปี 2561 เพิ่มขึ้น 36% สู่ระดับ 2.14 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2557
หุ้นไรอันแอร์ โฮลดิ้งส์ ร่วงลงเกือบ 3% หลังจากไรอันแอร์ซึ่งเป็นสายการบินต้นทุนต่ำของไอร์แลนด์ เปิดเผยตัวขาดทุนเกือบ 20 ล้านยูโร (ประมาณ 22.88 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในไตรมาสที่ 3/2561 ตามปีงบการเงินของบริษัท
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ร่วงลงหลังจากดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการของจีน ซึ่งมาร์กิตจัดทำร่วมกับไฉซิน อยู่ที่ระดับ 53.6 ในเดือนม.ค. ลดลงจากระดับ 53.9 ในเดือนธ.ค. ทั้งนี้ หุ้นเฟรสนิลโล ดิ่งลงเกือบ 2% และหุ้นบีเอชพี กรุ๊ป ร่วงลง 1.4%
ตลาดหุ้นลอนดอนได้รับแรงกดดันหลังจากไอเอชเอส มาร์กิต/ซีไอพีเอส เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการก่อสร้างของสหราชอาณาจักร ปรับตัวลงสู่ระดับ 50.6 ในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 10 เดือน จากระดับ 52.8 ในเดือนธ.ค.