ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลดลงเมื่อคืนนี้ (7 ก.พ.) โดยหุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวลง หลังธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจอังกฤษในปีนี้ เนื่องจากผลกระทบของการที่อังกฤษแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) และการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,093.58 จุด ลดลง 79.51 จุดหรือ -1.11%
ทั้งนี้ BoE ได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของอังกฤษในปีนี้ลงสู่ระดับ 1.2% จากเดิมที่ระดับ 1.7% โดยคาดว่าเศรษฐกิจจะชะลอตัวต่อไปในปีนี้ สู่ระดับต่ำสุดในรอบ 10 ปี
ส่วนการประชุมนโยบายการเงินเมื่อวานนี้ ที่ประชุม BoE มีมติเอกฉันท์ 9-0 เสียงให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.75% ตามการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ท่ามกลางความไม่แน่นอนจากปัจจัย Brexit ขณะที่เหลือเวลาอีกเพียง 50 วันก่อนถึงวันที่ 29 มี.ค.2562 ซึ่งอังกฤษจะต้องแยกตัวจากสหภาพยุโรปอย่างเป็นทางการ
นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ได้เข้าพบนายฌอง-คล็อด ยุงเกอร์ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ซึ่งเป็นองค์กรบริหารของสหภาพยุโรป (EU) เมื่อวานนี้เพื่อหารือเกี่ยวกับข้อตกลง Brexit
อย่างไรก็ดี การหารือดังกล่าวไม่ได้ข้อสรุปแต่อย่างใด ขณะที่นายยุงเกอร์ย้ำว่า EU จะไม่มีการเจรจาต่อรองใหม่เกี่ยวกับข้อตกลง Brexit ที่ได้ทำไว้กับอังกฤษก่อนหน้านี้
แถลงการณ์หลังการประชุมระบุว่า "การเจรจาเป็นไปอย่างเข้มข้น แต่สร้างสรรค์ ขณะที่ EU จะยังคงดำเนินการร่วมกับอังกฤษต่อไปเพื่อหาทางหลีกเลี่ยงการเผชิญกับภาวะ Brexit ที่ไร้ข้อตกลง"
นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะพบกันอีกครั้งก่อนสิ้นเดือนนี้
หุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลง โดยหุ้นลอยด์ แบงกิ้ง ร่วง 1.82% และหุ้นเอชเอสบีซีลดลง 0.67%