ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องในวันนี้ โดยล่าสุดทะยานกว่า 300 จุด ขานรับข่าวที่ว่าสมาชิกพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันสามารถบรรลุข้อตกลงในการหลีกเลี่ยงการปิดหน่วยงานรัฐบาล (ชัตดาวน์) รอบที่ 2 ในวันที่ 15 ก.พ.
นอกจากนี้ นักลงทุนยังคาดการณ์ความคืบหน้าในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนในสัปดาห์นี้
ณ เวลา 23.18 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 25,364.59 จุด เพิ่มขึ้น 311.48 จุด หรือ 1.24%
หุ้นกลุ่มพลังงานและการเงินพุ่งขึ้นนำตลาด
นายเควิน แมคคาร์ธี ผู้นำเสียงข้างน้อยในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ กล่าวว่า การเจรจาระหว่างสมาชิกพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันในการหลีกเลี่ยงภาวะชัตดาวน์รอบที่ 2 ในวันที่ 15 ก.พ. ประสบความคืบหน้า
นายแมคคาร์ธีระบุว่า ทั้งสองฝ่ายสามารถบรรลุข้อตกลงชั่วคราว โดยพรรคเดโมแครตยอมอ่อนข้อต่อข้อเรียกร้องของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ในการสร้างกำแพงกั้นแนวชายแดนที่ติดกับเม็กซิโก
นายแมคคาร์ธียังกล่าวว่า นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งก่อนหน้านี้ยืนกรานว่าจะไม่มีการให้งบประมาณสร้างกำแพง แต่ในการทำข้อตกลงชั่วคราว นางเพโลซีไม่ได้แสดงการคัดค้านต่อข้อเรียกร้องของปธน.ทรัมป์แต่อย่างใด และขณะนี้ พรรคเดโมแครตเห็นพ้องต่อแนวคิดในการสร้างรั้วความยาวมากกว่า 55 ไมล์
อย่างไรก็ดี นายดรูว์ แฮมมิล ซึ่งเป็นรองหัวหน้าคณะทำงานของนางเพโลซี กล่าวว่า "ข้อตกลงนี้ก็ยังคงไม่มีการให้เงินสร้างกำแพง และที่ผ่านมา พรรคเดโมแครตก็ได้สนับสนุนการสร้างรั้วอยู่แล้ว และข้อตกลงนี้ก็มีวงเงินสนับสนุนการสร้างรั้วเท่ากับในปีที่แล้ว"
แหล่งข่าวในสภาคองเกรสเปิดเผยว่า ตัวแทนการเจรจาจากพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันสามารถบรรลุข้อตกลงชั่วคราวในการหลีกเลี่ยงภาวะชัตดาวน์ โดยที่ประชุมเห็นพ้องกันในการสร้างรั้ววงเงิน 1.4 พันล้านดอลลาร์ แต่ไม่ใช่กำแพงคอนกรีตที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ต้องการ
ก่อนหน้านี้ ปธน.ทรัมป์เรียกร้องให้มีการสร้างกำแพงความยาว 215 ไมล์ วงเงิน 5.7 พันล้านดอลลาร์กั้นชายแดนเม็กซิโก ซึ่งส่งผลให้เกิดความขัดแย้งระหว่างพรรคเดโมแครต และรีพับลิกันในสภาคองเกรส จนนำไปสู่ภาวะชัตดาวน์ 35 วัน ซึ่งเป็นสถิติยาวนานเป็นประวัติการณ์ของสหรัฐ
นอกจากนี้ ข้อตกลงชั่วคราวดังกล่าวจะลดจำนวนเตียงในสถานกักกันผู้อพยพที่เข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายลง 17% จากปัจจุบันที่ระดับ 49,057 เตียง สู่ระดับ 40,520 เตียง
ขณะเดียวกัน นักลงทุนยังจับตาการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนในสัปดาห์นี้
เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวรายหนึ่งกล่าวว่า อาจมีการเลื่อนกำหนดเส้นตายสำหรับการบรรลุข้อตกลงทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน จากเดิมที่กำหนดไว้ในวันที่ 1 มี.ค.
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่สหรัฐและจีนจะจัดการเจรจาการค้ารอบใหม่ที่กรุงปักกิ่งในสัปดาห์นี้ โดยกระทรวงพาณิชย์จีนยืนยันว่า นายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีน จะจัดการประชุมเพื่อเจรจาการค้ารอบใหม่กับนายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าของสหรัฐ (USTR) และสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ โดยการประชุมจะจัดขึ้นที่กรุงปักกิ่ง ในวันที่ 14-15 ก.พ.นี้
ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กำหนดเส้นตายสำหรับการบรรลุข้อตกลงทางการค้าในวันที่ 1 มี.ค. ซึ่งหากทั้ง 2 ฝ่ายยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงก่อนวันดังกล่าว ปธน.ทรัมป์ก็จะเดินหน้าเพิ่มการเรียกเก็บภาษีนำเข้าต่อสินค้าจีนมูลค่า 2 แสนล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 25% จากเดิม 10% ในขณะนี้
นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์ระบุว่า เขาไม่มีแผนที่จะพบปะกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ก่อนวันที่ 1 มี.ค.
อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวกล่าวว่า ถึงแม้ปธน.ทรัมป์ไม่มีแผนที่จะพบกับปธน.สี จิ้นผิงก่อนวันที่ 1 มี.ค. แต่ผู้นำทั้งสองก็อาจสนทนาทางโทรศัพท์ในช่วงก่อนที่จะมีการพบปะกัน และถ้าหากการเจรจาการค้าระหว่างเจ้าหน้าที่สหรัฐและจีนมีความคืบหน้าอย่างมากในสัปดาห์นี้ ก็อาจจะมีการเลื่อนกำหนดเส้นตายสำหรับการบรรลุข้อตกลงทางการค้าจากเดิมที่กำหนดไว้ในวันที่ 1 มี.ค.
ขณะเดียวกัน สื่อรายงานว่า เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวกำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณาเลือกรีสอร์ท Mar-a-Lago ของปธน.ทรัมป์ เป็นสถานที่จัดการประชุมเพื่อเจรจาการค้าระหว่างปธน.ทรัมป์ และปธน.สี จิ้นผิงในกลางเดือนมี.ค.