ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดบวก รับความหวังเจรจาการค้าสหรัฐ-จีน,สหรัฐเลี่ยงชัตดาวน์

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday February 13, 2019 07:26 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (12 ก.พ.) โดยหุ้นกลุ่มรถยนต์พุ่งขึ้นนำตลาด หลังจากบริษัทมิชลินเปิดเผยผลประกอบการสดใส นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนมีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับการบรรลุข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐและจีน รวมถึงความหวังที่สหรัฐจะสามารถหลีกเลี่ยงการปิดหน่วยงานรัฐบาล (ชัตดาวน์) รอบ 2 ในวันศุกร์นี้

ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.46% ปิดที่ 362.78 จุด

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,126.08 จุด เพิ่มขึ้น 111.49 จุด หรือ +1.01% ขณะที่ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,133.14 จุด เพิ่มขึ้น 4.03 จุด หรือ +0.06% และดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,056.35 จุด เพิ่มขึ้น 41.88 จุด หรือ +0.84%

ตลาดปรับตัวขึ้นขานรับความเชื่อมั่นต่อการทำข้อตกลงการค้าสหรัฐ-จีน หลังจากนายเควิน แมคคาร์ธี ผู้นำเสียงข้างน้อยในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ กล่าวว่า การเจรจาระหว่างสมาชิกพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันในการหลีกเลี่ยงภาวะชัตดาวน์รอบที่ 2 ในวันที่ 15 ก.พ. ประสบความคืบหน้า โดยตัวแทนการเจรจาจากพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันสามารถบรรลุข้อตกลงชั่วคราวในการหลีกเลี่ยงภาวะชัตดาวน์ ด้วยการเห็นพ้องกันในการสร้างรั้ววงเงิน 1.4 พันล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ ข้อตกลงชั่วคราวยังครอบคลุมถึงการลดจำนวนเตียงในสถานกักกันผู้อพยพที่เข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายลง 17% เหลือ 40,520 เตียง จากปัจจุบันที่จำนวน 49,057 เตียง

ทั้งนี้ แม้ที่ประชุมยังไม่เห็นพ้องในการจัดสรรงบประมาณสร้างกำแพงคอนกรีตกั้นแนวชายแดนติดกับเม็กซิโกวงเงิน 5.7 พันล้านดอลลาร์ที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ต้องการ แต่พรรคเดโมแครตก็มีท่าทีอ่อนลงต่อข้อเรียกร้องดังกล่าวของปธน.ทรัมป์ โดยในระหว่างการประชุมครั้งนี้ นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎร ไม่ได้แสดงการคัดค้านต่อข้อเรียกร้องของปธน.ทรัมป์ และขณะนี้ พรรคเดโมแครตเห็นพ้องต่อแนวคิดในการสร้างรั้วความยาวมากกว่า 55 ไมล์

นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยหนุนจากการที่นักลงทุนคาดการณ์ว่า การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนในสัปดาห์นี้จะมีความคืบหน้า โดยนายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีน จะจัดการประชุมเพื่อเจรจาการค้ารอบใหม่กับนายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าของสหรัฐ (USTR) และสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ ที่กรุงปักกิ่ง ในวันที่ 14-15 ก.พ.นี้

เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวเปิดเผยว่า แม้ปธน.ทรัมป์กล่าวว่าเขาไม่มีแผนที่จะพบปะกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ก่อนวันที่ 1 มี.ค. แต่เชื่อว่าผู้นำทั้งสองอาจสนทนาทางโทรศัพท์ในช่วงก่อนที่จะมีการพบปะกัน และถ้าหากการเจรจาการค้าระหว่างเจ้าหน้าที่สหรัฐและจีนมีความคืบหน้าอย่างมากในสัปดาห์นี้ ก็อาจจะมีการเลื่อนกำหนดเส้นตายสำหรับการบรรลุข้อตกลงทางการค้าจากเดิมที่กำหนดไว้ในวันที่ 1 มี.ค.

ส่วนปัจจัยทางฝั่งยุโรปนั้น นายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ของอังกฤษมีแนวโน้มที่จะเรียกร้องให้รัฐสภาอังกฤษให้เวลาเธออีก 2 สัปดาห์เพื่อปรับปรุงข้อตกลงการถอนตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) โดยคาดว่านางเมย์จะเรียกร้องนักการเมืองไม่ให้ขัดขวางความพยายามของเธอที่จะทำข้อตกลงกับสหภาพยุโรป ขณะที่การเจรจายังคงดำเนินอยู่ในขณะนี้

หุ้นมิชลิน ผู้ผลิตยางรถยนต์รายใหญ่ของฝรั่งเศสทะยานขึ้น 11% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลกำไรแข็งแกร่ง ซึ่งช่วยหนุนหุ้นบริษัทรถยนต์ดีดตัวขึ้นเช่นกัน โดยหุ้นเดมเลอร์ เอเจี พุ่งขึ้น 2.64% และหุ้นโฟล์คสวาเกน เพิ่มขึ้น 2.55%

หุ้นกลุ่มสินค้าแบรนด์เนมชื่อดังปรับตัวขึ้น หลังจากหนังสือพิมพ์ไชน่า เดลี่ เปิดเผยผลสำรวจซึ่งระบุว่า ความต้องการสินค้าหรูของผู้อุปโภคชาวจีนยังคงอยู่ในระดับที่แข็งแกร่งในปีนี้ โดยหุ้นหลุยส์ วิตตอง พุ่งขึ้น 2% หุ้นเบอร์เบอร์รี กรุ๊ป ดีดตัวขึ้น 0.7% อย่างไรก็ตาม หุ้นเคอริง เจ้าของแบรนด์กุชชี ร่วงลง 2% แม้บริษัทเปิดเผยกำไรสุทธิพุ่งขึ้น 2 เท่าในปี 2561 ก็ตาม

หุ้นธิสเซ่นครุปป์ (Thyssenkrupp) ซึ่งเป็นผู้ผลิตเหล็กของเยอรมนี ร่วงลง 2% หลังจากบริษัทได้ระบุถึงความเสี่ยงที่เกิดจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและการเมืองทั่วโลก


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ