ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (12 ก.พ.) หลังนักลงทุนขานรับแนวโน้มการทำข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐและจีน รวมทั้งการหลีกเลี่ยงภาวะปิดหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐ (ชัตดาวน์) รอบ 2 และความหวังเกี่ยวกับการเจรจาเรื่อง Brexit
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,133.14 จุด เพิ่มขึ้น 4.03 จุด หรือ +0.06%
ตลาดหุ้นลอนดอนพุ่งขึ้น หลังจากนายเควิน แมคคาร์ธี ผู้นำเสียงข้างน้อยในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ กล่าวว่า การเจรจาระหว่างสมาชิกพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันในการหลีกเลี่ยงภาวะชัตดาวน์รอบที่ 2 ในวันที่ 15 ก.พ. ประสบความคืบหน้า โดยตัวแทนการเจรจาจากพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันสามารถบรรลุข้อตกลงชั่วคราวในการหลีกเลี่ยงภาวะชัตดาวน์ ด้วยการเห็นพ้องกันในการสร้างรั้ววงเงิน 1.4 พันล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ ข้อตกลงชั่วคราวยังครอบคลุมถึงการลดจำนวนเตียงในสถานกักกันผู้อพยพที่เข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายลง 17% เหลือ 40,520 เตียง จากปัจจุบันที่จำนวน 49,057 เตียง
ทั้งนี้ แม้ที่ประชุมยังไม่เห็นพ้องในการจัดสรรงบประมาณสร้างกำแพงคอนกรีตกั้นแนวชายแดนติดกับเม็กซิโกวงเงิน 5.7 พันล้านดอลลาร์ที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ต้องการ แต่พรรคเดโมแครตก็มีท่าทีอ่อนลงต่อข้อเรียกร้องดังกล่าวของปธน.ทรัมป์ โดยในระหว่างการประชุมครั้งนี้ นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎร ไม่ได้แสดงการคัดค้านต่อข้อเรียกร้องของปธน.ทรัมป์ และขณะนี้ พรรคเดโมแครตเห็นพ้องต่อแนวคิดในการสร้างรั้วความยาวมากกว่า 55 ไมล์
นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยหนุนจากการที่นักลงทุนคาดการณ์ว่า การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนในสัปดาห์นี้จะมีความคืบหน้า โดยนายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีน จะจัดการประชุมเพื่อเจรจาการค้ารอบใหม่กับนายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าของสหรัฐ (USTR) และสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ ที่กรุงปักกิ่ง ในวันที่ 14-15 ก.พ.นี้
เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวเปิดเผยว่า แม้ปธน.ทรัมป์กล่าวว่าเขาไม่มีแผนที่จะพบปะกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ก่อนวันที่ 1 มี.ค. แต่เชื่อว่าผู้นำทั้งสองอาจสนทนาทางโทรศัพท์ในช่วงก่อนที่จะมีการพบปะกัน และถ้าหากการเจรจาการค้าระหว่างเจ้าหน้าที่สหรัฐและจีนมีความคืบหน้าอย่างมากในสัปดาห์นี้ ก็อาจจะมีการเลื่อนกำหนดเส้นตายสำหรับการบรรลุข้อตกลงทางการค้าจากเดิมที่กำหนดไว้ในวันที่ 1 มี.ค.
ส่วนความคืบหน้าเกี่ยวกับการทำข้อตกลงของอังกฤษในการถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) นั้น ได้ช่วยหนุนตลาดด้วย โดยนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษมีแนวโน้มที่จะขอเวลารัฐสภา 2 สัปดาห์ในการปรับปรุงข้อตกลง Brexit และเรียกร้องบรรดานักการเมืองไม่ให้ขัดขวางความพยายามของเธอในการทำข้อตกลงกับสหภาพยุโรป ขณะที่การเจรจากำลังดำเนินอยู่ในขณะนี้
หุ้นดีเบนแฮมส์ในกลุ่มค้าปลีกบวกนำตลาด โดยทะยานขึ้น 28.25% หลังบริษัทรายงานว่าได้รับวงเงินสินเชื่ออีก 40 ล้านปอนด์
แต่หุ้น TUI AG ในกลุ่มท่องเที่ยวร่วงลง 7.45% หลังเปิดเผยยอดขาดทุนสุทธิในไตรมาสแรกเพิ่มขึ้น