ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (19 ก.พ.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการที่นักลงทุนเข้าซื้อหุ้นกลุ่มที่สามารถต้านทานวัฏจักรทางเศรษฐกิจ (defensive stocks) ซึ่งเป็นหุ้นที่ปลอดภัยและมีปัจจัยพื้นฐานดี เช่นหุ้นกลุ่มสินค้าผู้บริโภคและกลุ่มสาธารณูปโภค นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งเกินคาดของบริษัทค้าปลีกยักษ์ใหญ่อย่างวอลมาร์ท ขณะที่นักลงทุนจับตาการเจรจาการค้ารอบใหม่ระหว่างสหรัฐและจีนซึ่งจะจัดขึ้นที่กรุงวอชิงตันในสัปดาห์นี้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,891.32 จุด เพิ่มขึ้น 8.07 จุด หรือ +0.03% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,779.76 จุด เพิ่มขึ้น 4.16 จุด หรือ +0.15% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,486.77 จุด เพิ่มขึ้น 14.36 จุด หรือ +0.19%
นักลงทุนเข้าซื้อหุ้นกลุ่มที่มีปัจจัยพื้นฐานดี เช่นหุ้นกลุ่มสินค้าผู้บริโภคและกลุ่มสาธารณูปโภค โดยหุ้นในกลุ่มสินค้าผู้บริโภคนั้น หุ้นพร็อคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล (P&G) พุ่งขึ้น 1.5% หุ้นเป๊ปซี่โค ดีดตัวขึ้น 0.2% ส่วนหุ้นในกลุ่มนั้น หุ้นดุ๊ค เอนเนอร์จี เพิ่มขึ้น 0.5 หุ้นคอนโซลิเดทเต็ด เอดิสัน อิงค์ เพิ่มขึ้น 0.5% หุ้นเฟิร์สท์เอนเนอร์จี ซึ่งเป็นบริษัทสาธารณูปโภครายใหญ่ของสหรัฐ เพิ่มขึ้น 0.3% และหุ้นเอ็กเซลอน เพิ่มขึ้น 0.5%
หุ้นวอลมาร์ท พุ่งขึ้น 2.2% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรในไตรมาส 4/2561 อยู่ที่ระดับ 1.41 ดอลลาร์/หุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.33 ดอลลาร์/หุ้น ส่วนยอดขายออนไลน์ผ่านระบบอีคอมเมิร์ซพุ่งขึ้น 43% ซึ่งเท่ากับในไตรมาส 3 และเมื่อพิจารณาทั้งปี 2561 ยอดขายอีคอมเมิร์ซเพิ่มขึ้น 40% ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้
หุ้นอเมซอน ดีดตัวขึ้น 1.2% หลังจากมีรายงานว่า บริษัทในเครือของอเมซอนในประเทศจีนกำลังเจรจาควบรวมกิจการกับ Kaola ซึ่งเป็นเว็บไซต์ซื้อขายสินค้าของจีน
หุ้นฟรีพอร์ท แมคมอแรน ซึ่งเป็นบริษัทเหมืองรายใหญ่ ทะยานขึ้น 6.6% หลังจากนักวิเคราะห์ของซิตี้กรุ๊ปประกาศเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นฟรีพอร์ท แมคมอแรน สู่ระดับ "buy" จากระดับ "neutral"
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์อินเวอร์เนส เคาเซิล ในกรุงนิวยอร์กกล่าวว่า แรงบวกในตลาดได้ถูกสกัดลงในระหว่างวัน หลังจากนายจอห์น วิลเลียมส์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์กได้แสดงความเห็นว่า การที่เศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มการเติบโตที่แตกต่างกันในแต่ละภาคส่วนนั้น ถือเป็นปัจจัยที่อาจทำให้เฟดกลับมาดำเนินนโยบายปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้ง
นักลงทุนยังจับตารายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐในวันนี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ยุติการขึ้นอัตราดอกเบี้ย และการปรับลดขนาดงบดุลภายในปีนี้
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาความคืบหน้าในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนในสัปดาห์นี้ โดยการเจรจาการค้าระดับรัฐมนตรีระหว่างสหรัฐและจีนเป็นเวลา 2 วันจะจัดขึ้นที่กรุงวอชิงตันในวันพฤหัสบดีและศุกร์นี้ ซึ่งทั้งสองฝ่ายต่างก็คาดหวังที่จะบรรลุข้อตกลงการค้าให้ได้ก่อนสิ้นเดือนนี้
การเจรจาครั้งนี้ มีขึ้นหลังจากการเจรจาที่กรุงปักกิ่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยนายสตีเวน มนูชิน นายโรเบิร์ต ไลท์ไทเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ และนายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีน จะเข้าร่วมการประชุมในสัปดาห์นี้ ขณะที่การประชุมระดับรัฐมนตรีช่วยนั้น ได้เริ่มเปิดฉากแล้วเมื่อวานนี้
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ สมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) ของสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านเพิ่มขึ้น 4 จุด สู่ระดับ 62 ในเดือนก.พ. เมื่อเทียบรายเดือน แต่เมื่อเทียบรายปี ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านร่วงลง 9 จุดในเดือนก.พ.
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนธ.ค., ดัชนีการผลิตเดือนก.พ.จากเฟดฟิลาเดลเฟีย, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นเดือนก.พ.จากมาร์กิต, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเบื้องต้นเดือนก.พ.จากมาร์กิต และยอดขายบ้านมือสองเดือนม.ค.