ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (19 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังกับการเปิดเผยผลประกอบการของธนาคารเอชเอสบีซีและบริษัทบีเอชพี ขณะที่มีความกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับการถอนตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) หลังเกิดความขัดแย้งในพรรคแรงงานซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านของอังกฤษ นอกจากนี้ ข่าวการปิดโรงงานฮอนด้าในอังกฤษยังเป็นปัจจัยกดดันตลาดด้วย
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,179.17 จุด ลดลง 40.30 จุด หรือ -0.56%
ตลาดปรับตัวลงจากความวิตกที่ว่า จะเกิดความขัดแย้งในพรรคอนุรักษ์นิยมที่เป็นพรรครัฐบาลอังกฤษเช่นกัน หลังจากที่มีรายงานว่า สมาชิกพรรคแรงงานจำนวน 7 รายประกาศลาออกจากพรรคเมื่อวันจันทร์ โดยระบุถึงความล้มเหลวของผู้นำพรรคเกี่ยวกับนโยบาย Brexit นโยบายการต่อต้านชาวยิว รวมทั้งวัฒนธรรมในการกดขี่ข่มเหงสมาชิกพรรค
ปัจจัยลบในตลาดยังมาจากรายงานข่าวที่ว่า บริษัทฮอนด้าของญี่ปุ่นประกาศปิดโรงงานผลิตรถยนต์ในอังกฤษในปี 2564 ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อแรงงานราว 3,500 คน
อย่างไรก็ตาม แม้มีความวิตกในเรื่องดังกล่าว แต่สำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษเปิดเผย ตัวเลขการจ้างงานในอังกฤษแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนธ.ค. 2561
หุ้นเอชเอสบีซี ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่สุดของยุโรปเมื่อพิจารณาในด้านสินทรัพย์ ร่วง 4.36% หลังธนาคารรายงานผลกำไรสุทธิทั้งปี 2561 ที่ 1.26 หมื่นล้านดอลลาร์ ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 1.371 หมื่นล้านดอลลาร์
หุ้นสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด ร่วง 2.12%
ส่วนหุ้นธนาคารอื่นๆ ปรับตัวขึ้น ขณะที่นักลงทุนรอดูธนาคารของอังกฤษเปิดเผยผลประกอบการในสัปดาห์นี้ โดยหุ้นลอยด์ส แบงกิ้ง กรุ๊ป บวก 0.09% และหุ้นบาร์เคลยส์ ปรับตัวขึ้น 0.56%
หุ้นบีเอชพี ซึ่งเป็นบริษัทเหมืองแร่ใหญ่ที่สุดในโลก ลบ 0.21% หลังเปิดเผยว่า กำไรในช่วง 6 เดือนแรกของปีงบการเงิน ดิ่งลง 8% โดยได้รับผลกระทบจากรายได้จากทองแดงที่ทรุดตัวลง