ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (25 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนได้รับแรงหนุนจากข่าวที่ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐได้เลื่อนกำหนดเส้นตายในการเก็บภาษีสินค้าจีนจากวันที่ 1 มี.ค. และข่าวที่ว่าอังกฤษอาจเลื่อนกำหนดในการถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) จากวันที่ 29 มี.ค.ก็เป็นปัจจัยบวกต่อตลาดด้วย
ดัชนี Stoxx Europe บวก 0.26% ปิดที่ 372.18 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,231.85 จุด เพิ่มขึ้น 16.01 จุดหรือ +0.31% ขณะที่ ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,505.39 จุด เพิ่มขึ้น 47.69 จุดหรือ +0.42% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,183.74 จุด เพิ่มขึ้น 5.14 จุดหรือ +0.07%
ตลาดปรับตัวขึ้นรับข่าวที่ว่า ปธน.ได้ทวีตเมื่อวันอาทิตย์ว่า เขาจะเลื่อนกำหนดเส้นตายในการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากมูลค่า 2 แสนล้านดอลลาร์ออกไปจากวันที่ 1 มี.ค. หลังจากที่การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนมีความคืบหน้าอย่างมาก
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากข่าวที่ว่า นางเทเรซ่า เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษได้เลื่อนการลงมติของรัฐสภาต่อข้อตกลง Brexit ของเธอไปเป็นวันที่ 12 มี.ค. ทำให้ตลาดคาดว่าจะมีการเลื่อนกำหนด Brexit จากวันที่ 29 มี.ค.ออกไปด้วย
หุ้นกลุ่มการเงินปรับตัวขึ้น โดยหุ้นธนาคารบังโค บีพีเอ็มของอิตาลี บวก 3.45% และหุ้นดานสเก้ แบงก์ของเดนมาร์ก เพิ่มขึ้น 3.89%
หุ้นเอเอ็มเอส เอจี ซึ่งเป็นบริษัทผลิตเซมิคอนดักเตอร์ของออสเตรีย พุ่งขึ้น 5.22%