ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (25 ก.พ.) โดยปรับตัวขึ้นตามตลาดหุ้นทั่วโลก หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ทวีตข้อความเมื่อวันอาทิตย์ว่า เขาจะเลื่อนกำหนดเส้นตายในการเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีน และการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มเหมืองช่วยหนุนตลาดด้วยเช่นกัน แต่การแข็งค่าของเงินปอนด์ หลังมีข่าวว่านางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษได้เลื่อนการลงมติของรัฐสภาต่อข้อตกลงถอนตัวจากสหภาพยุโรป (Brexit) นั้น ได้สกัดการปรับตัวขึ้นของตลาด
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,183.74 จุด เพิ่มขึ้น 5.14 จุดหรือ +0.07%
ตลาดปรับตัวขึ้นรับข่าวที่ว่า ปธน.ทรัมป์จะเลื่อนกำหนดเส้นตายในการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีนจากวันที่ 1 มี.ค. โดยเขาทวีตว่า การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่กรุงวอชิงตันในสัปดาห์ที่ผ่านมามีความคืบหน้าอย่างมาก
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากความเป็นไปได้ที่จะมีการเลื่อนกำหนด Brexit ออกไปจากวันที่ 29 มี.ค. หลังนายเมย์เลื่อนการลงมติข้อตกลง Brexit ของเธอในรัฐสภาเป็นวันที่ 12 มี.ค.
นักวิเคราะห์กล่าวว่า หากมีการเลื่อนกำหนด Brexit ออกไป ก็อาจลดโอกาสที่จะมีการถอนตัวออกจาก EU แบบไร้ข้อตกลง ซึ่งก็ได้ช่วยลดความไม่แน่นอนในตลาด
อย่างไรก็ตาม ตลาดถูกสกัดช่วงบวกเนื่องจากปอนด์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ หลังจากนางเมย์ประกาศเลื่อนการลงมติของรัฐสภาต่อข้อตกลง Brexit
หุ้นกลุ่มเหมืองช่วยหนุนตลาด โดยหุ้นเกล็น คอร์ บวก 2.38% หุ้นแอนโตฟากัสตา เพิ่มขึ้น 2.14% และ หุ้นอีฟแรซ บวก 1.16%
หุ้นเอสต้าเซเนก้า บวก 2.13% หลังบริษัทประกาศว่ายา Brillinta ซึ่งเป็นยารักษาโรคหัวใจของบริษัทได้บรรลุเป้าหมายในการทดลองขั้นปลายแล้ว