ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ขยับลงในวันนี้ บ่งชี้ว่าตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะปรับตัวลงในคืนนี้ ขณะที่นักลงทุนผิดหวังต่อการประชุมสุดยอดระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ที่สิ้นสุดลงโดยไม่มีการทำข้อตกลงใดๆ
ณ เวลา 20.14 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ลบ 18 จุด หรือ 0.07% สู่ระดับ 25,990 จุด
ทั้งนี้ ปธน.ทรัมป์เปิดเผยว่า นายคิมต้องการให้สหรัฐยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่อเกาหลีเหนือทั้งหมด แต่สหรัฐยังไม่สามารถทำได้ในขณะนี้ นอกจากนี้ ทรัมป์กล่าวว่า การยกเลิกโครงการนิวเคลียร์ที่เมืองยองเบียนนั้น ยังไม่เพียงพอ
ผู้นำสหรัฐยังกล่าวด้วยว่า เกาหลีเหนือเต็มใจที่จะดำเนินการในหลายประเด็น แต่ไม่ใช่สิ่งที่สหรัฐต้องการ ด้วยเหตุนี้ สหรัฐจึงเห็นว่ายังไม่เหมาะสมที่จะมีการลงนามข้อตกลงใดๆร่วมกับเกาหลีเหนือในวันนี้
อย่างไรก็ตาม ปธน.ทรัมป์กล่าวว่า นายคิมได้ให้คำมั่นว่าจะไม่ทำการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ และการประชุมร่วมกับนายคิมในครั้งนี้ ดำเนินไปด้วยดีและมีความเป็นมิตร
ปธน.ทรัมป์กล่าวว่า เขาไม่สามารถให้คำมั่นสัญญาได้ว่าจะมีการจัดประชุมสุดยอดรอบที่ 3 ร่วมกับนายคิมหรือไม่
นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์ยังกล่าวว่า ทั้งจีน รัสเซีย และเกาหลีใต้ ต่างก็ให้การสนับสนุนการเจรจาปลดอาวุธนิวเคลียร์เกาหลีเหนือ
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 4/2561 ในวันนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะมีการขยายตัวเพียง 2.3% ในไตรมาสดังกล่าว
การชะลอตัวของเศรษฐกิจในไตรมาสสุดท้ายของปีที่แล้ว ได้รับผลกระทบจากการขาดดุลการค้าที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งการลดลงของการใช้จ่ายของผู้บริโภค และภาคธุรกิจ
นอกจากนี้ นักวิเคราะห์ยังคาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะเติบโตต่ำกว่า 2% ในไตรมาสแรกของปีนี้ โดยจะมีการขยายตัวเพียง 1.8%
ทั้งนี้ เศรษฐกิจสหรัฐมีการขยายตัว 3.4% ในไตรมาส 3 ของปีที่แล้ว หลังจากพุ่งแตะ 4.2% ในไตรมาส 2 และแตะระดับ 2.2% ในไตรมาส 1
หากเศรษฐกิจสหรัฐเติบโต 2.3% ในไตรมาส 4 ตามที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ก็จะส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐมีการขยายตัว 2.9% ในปีที่แล้ว โดยต่ำกว่าระดับ 3% ซึ่งเป็นเป้าหมายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์คาดว่าการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐในปีที่แล้วเกิดจากปัจจัยชั่วคราว ซึ่งเกี่ยวข้องกับการปิดหน่วยงานรัฐบาล (ชัตดาวน์) และการทำสงครามการค้ากับจีน