ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (28 ก.พ.) โดยถูกกดดันจากเงินปอนด์ที่แข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง และนักลงทุนผิดหวังกับการประชุมสุดยอดระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ที่สิ้นสุดลงโดยไม่มีการทำข้อตกลงใดๆ
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,074.73 จุด ลดลง 32.47 จุด หรือ -0.46%
ตลาดยังคงถูกกดดันจากเงินปอนด์ที่แข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากรัฐบาลอังกฤษดำเนินการต่างๆ ที่ทำให้มีโอกาสน้อยลงที่อังกฤษจะถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) แบบไร้ข้อตกลง
ด้านพรรคแรงงานของอังกฤษจะสนับสนุนการยื่นญัตติต่อรัฐสภาเพื่อเรียกร้องให้มีการลงประชามติครั้งใหม่ในวันที่ 12 มี.ค.
นอกจากนี้ นักลงทุนยังผิดหวังกับการประชุมสุดยอดระหว่างผู้นำสหรัฐและเกาหลีเหนือที่กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม ซึ่งสิ้นสุดลงเมื่อวานนี้ โดยไม่มีการทำข้อตกลงใดๆ โดย ปธน.ทรัมป์ได้เปิดเผยว่า นายคิมต้องการให้สหรัฐยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่อเกาหลีเหนือทั้งหมด แต่สหรัฐยังไม่สามารถทำได้ในขณะนี้ นอกจากนี้ ทรัมป์กล่าวว่า การยกเลิกโครงการนิวเคลียร์ที่เมืองยองเบียนนั้น ยังไม่เพียงพอ
ผู้นำสหรัฐยังกล่าวด้วยว่า เกาหลีเหนือเต็มใจที่จะดำเนินการในหลายประเด็น แต่ไม่ใช่สิ่งที่สหรัฐต้องการ ด้วยเหตุนี้ สหรัฐจึงเห็นว่ายังไม่เหมาะสมที่จะมีการลงนามข้อตกลงใดๆ ร่วมกับเกาหลีเหนือหลังการประชุมสุดยอดครั้งนี้
ส่วนข่าวเกี่ยวกับผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในตลาดเป็นปัจจัยลบถ่วงตลาดลงด้วย
หุ้นโรลส์-รอยซ์ ร่วง 2.83% หลังบริษัทเปิดเผยยอดขาดทุน และประกาศถอนตัวจากการแข่งขันประมูลผลิตเครื่องยนต์ให้กับเครื่องบินใหม่ของโบอิ้ง
หุ้นอาร์เอสเอ อินชัวรันซ์ กรุ๊ป ลบ 2.96% หลังบริษัทเปิดเผยผลกำไรร่วงลงในปี 2561
หุ้นอินเตอร์เนชันแนล คอนโซลิเดเต็ด แอร์ กรุ๊ป ลบ 0.20% และหุ้นอีซี่เจ็ต ลดลง 2.03%