ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าปรับตัวขึ้น หลัง MSCI เตรียมเพิ่มน้ำหนักหุ้นจีน

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday March 1, 2019 11:49 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าวันนี้ปรับตัวขึ้น ภายหลังจากที่ MSCI ซึ่งเป็นบริษัทจัดทำดัชนีระดับโลก เตรียมเพิ่มน้ำหนักของหุ้นจีนเป็น 4 เท่าในการคำนวณดัชนีหุ้นโลกในปลายปีนี้ ซึ่งคาดว่าจะดึงดูดเงินทุนไหลเข้าจากต่างประเทศมากกว่า 8 หมื่นล้านดอลลาร์เข้าสู่จีนแม้ว่าจะมีการเปิดเผยข้อมูลดัชนี PMI ภาคการผลิตของจีนที่จัดทำโดยมาร์กิตและไฉซินที่บ่งชี้ถึงการหดตัวลงอย่างต่อเนื่อง

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 28,760.83 จุด เพิ่มขึ้น 127.65 จุด, +0.45% ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 21,574.51 จุด เพิ่มขึ้น 189.35 จุด, +0.89% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดภาคเช้าที่ 1,698.69 จุด ลดลง 9.04 จุด, -0.53%

สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) ออกแถลงการณ์ว่า รัฐบาลสหรัฐได้เลื่อนเวลาการปรับเพิ่มอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนอย่างเป็นทางการ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ตัดสินใจที่จะขยายเส้นตายการบรรลุข้อตกลงการค้ากับจีน

การประกาศอย่างเป็นทางการมีขึ้นหลังจากที่ปธน.ทรัมป์ทวีตข้อความเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่า สหรัฐจะเลื่อนเวลาการปรับเพิ่มอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนออกไป จากเดิมที่กำหนดว่าจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มี.ค.นี้ หลังจากการเจรจาการค้าระหว่างเจ้าหน้าที่สหรัฐและจีนมีความคืบหน้าในประเด็นสำคัญ ซึ่งรวมถึงประเด็นการปกป้องทรัพย์สินทางปัญญา

ข้อมูลเศรษฐกิจที่ได้มีการเปิดเผยในวันนี้ ได้แก่ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของจีน ซึ่งมาร์กิตจัดทำร่วมกับไฉซิน อยู่ที่ระดับ 49.9 ในเดือนก.พ. ซึ่งแม้ว่า ดัชนีจะเพิ่มขึ้นจากระดับ 48.3 ในเดือนม.ค. แต่ดัชนี PMI เคลื่อนไหวที่ระดับต่ำกว่า 50 ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 นั้น บ่งชี้ว่าภาคการผลิตของจีนอยู่ในภาวะหดตัว ขณะที่ภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศยังคงอ่อนแรง เนื่องจากการส่งออกชะลอตัวลง

กระทรวงกิจการภายในประเทศและการสื่อสารของญี่ปุนเปิดเผยในวันนี้ว่า อัตราว่างงานในเดือนม.ค.อยู่ที่ 2.5% เพิ่มขึ้นจาก 2.4% ในเดือนธ.ค.

ด้านกระทรวงสาธารณสุข แรงงาน และสวัสดิการเปิดเผยว่า อัตราตำแหน่งงานว่างในเดือนม.ค.ยังคงทรงตัวอยู่ที่ 1.63 ซึ่งหมายความว่า มีตำแหน่งงานว่าง 163 อัตรา สำหรับผู้หางานทุกๆ 100 คน

ขณะที่กระทรวงการค้า อุตสาหกรรม และพลังงานของเกาหลีใต้เปิดเผยในวันนี้ว่า ยอดส่งออกเดือนก.พ.ร่วงลง 11.1% เมื่อเทียบเป็นรายปี เนื่องจากราคาชิปในตลาดโลกปรับตัวลดลง รวมทั้งผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน

ทั้งนี้ ยอดการส่งออกของเกาหลีใต้ในเดือนก.พ.อยู่ที่ระดับ 3.956 หมื่นล้านดอลลาร์ ลดลงจากเดือนก.พ.ปีที่แล้วซึ่งอยู่ที่ระดับ 4.452 หมื่นล้านดอลลาร์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ