ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (1 มี.ค.) โดยได้แรงหนุนจากบรรยากาศการซื้อขายหุ้นที่สดใสขึ้นทั่วโลก หลังจีนเปิดเผยข้อมูลภาคการผลิตดีดตัวขึ้นในเดือนก.พ. และนักลงทุนขานรับความคืบหน้าครั้งใหม่ในการทำข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐและจีน
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,106.73 จุด เพิ่มขึ้น 32.00 จุด หรือ +0.45%
ตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวขึ้น หลังได้แรงหนุนจากการเปิดเผยข้อมูลดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของจีน ซึ่งมาร์กิตจัดทำร่วมกับไฉซิน อยู่ที่ระดับ 49.9 ในเดือนก.พ. ซึ่งเพิ่มขึ้นจากระดับ 48.3 ในเดือนม.ค.
ส่วนไอเอชเอส มาร์กิต/ซีไอพีเอส เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของสหราชอาณาจักร ปรับตัวลงสู่ระดับ 52.0 ในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือน จากระดับ 52.6 ในเดือนม.ค.
อย่างไรก็ดี ดัชนี PMI ยังคงอยู่เหนือระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ว่า กิจกรรมในภาคการผลิตของสหราชอาณาจักรยังคงมีการขยายตัว
นอกจากนี้ นักลงทุนยังมีความหวังมากขึ้นเกี่ยวกับการทำข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐและจีน หลังสำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า เจ้าหน้าที่สหรัฐกำลังจัดเตรียมข้อตกลงการค้าสำหรับการลงนามของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิงในช่วงกลางเดือนนี้
ทั้งนี้ นักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์เกี่ยวกับการถอนตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) โดยหนังสือพิมพ์เดอะซันรายงานว่า บรรดานักการเมืองของอังกฤษที่สนับสนุน Brexit จะสนับสนุนข้อตกลงของนางเทเรซ่า เมย์ นายกรัฐมนตรี เพื่อแลกกับการที่เธอวางแผนที่จะลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีโดยเร็ว
หุ้นดับบลิวพีพี ซึ่งเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านการโฆษณาของอังกฤษ พุ่งขึ้น 4.89% หลังบริษัทเปิดเผยผลประกอบการและแนวโน้มธุรกิจเป็นไปตามความคาดหมาย
หุ้นแอลเอสอี พุ่งขึ้น 4.17% หลังบริษัทเปิดเผยรายได้และผลกำไรเพิ่มขึ้นอย่างมากในปี 2561