ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (4 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนมีความเชื่อมั่นมากขึ้น หลังจากมีรายงานข่าวว่า สหรัฐและจีนอาจสามารถบรรลุข้อตกลงการค้าเร็วๆ นี้ ขณะที่นักลงทุนยังคงให้ความสนใจกับข่าวเกี่ยวกับการถอนตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit)
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,134.39 จุด เพิ่มขึ้น 27.66 จุด หรือ +0.39%
ตลาดดีดตัวขึ้น หลังจากมีรายงานข่าวว่าสหรัฐและจีนใกล้บรรลุข้อตกลงการค้า โดยบลูมเบิร์กรายงานว่า จีนเสนอที่จะลดภาษีและข้อจำกัดต่างๆ ต่อสินค้าเกษตร เคมีภัณฑ์ รถยนต์และผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่นำเข้าจากสหรัฐ
ส่วนหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล รายงานว่า สหรัฐอาจยกเลิกมาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าต่อสินค้าเกือบทุกรายการที่ได้บังคับใช้กับจีนตั้งแต่ปีที่แล้ว โดยคาดว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐและประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน อาจจะบรรลุข้อตกลงการค้าอย่างสมบูรณ์ในการประชุมวันที่ 27 มี.ค.นี้
นอกจากนี้ นักลงทุนยังคงจับตาความคืบหน้าเกี่ยวกับการถอนตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) โดยนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษได้ออกกองทุนใหม่วงเงิน 1.6 พันล้านปอนด์เพื่อช่วยเหลือเมืองต่างๆที่ยากจนที่สุดของอังกฤษ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเมืองที่สนับสนุนการถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (EU) ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวได้ถูกมองว่าเป็นความพยายามที่จะทำให้สมาชิกพรรคแรงงานให้การสนับสนุนข้อตกลง Brexit
หุ้นบริติช อเมริกัน โทแบคโค ของอังกฤษ บวก 0.30%
หุ้น เดลี่ เมล แอนด์ เจเนอรัล ทรัสต์ ของอังกฤษพุ่งขึ้น 4.48% หลังบริษัทประกาศจะจ่ายเงินสดส่วนเกินมูลค่า 1.19 พันล้านดอลลาร์ให้กับผู้ถือหุ้น
หุ้นเท็ด เบเคอร์ ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกเสื้อผ้า พุ่งขึ้น 4.76% หลังบริษัทเปิดเผยว่า นายเรย์ เคลวิน ซีอีโอของบริษัทได้ลาออกจากตำแหน่งโดยมีผลในทันที หลังจากที่เขาลางานโดยสมัครใจในเดือนธ.ค. 2561 เนื่องจากข้อกล่าวหาเรื่องการประพฤติมิชอบ และนางลินด์เซย์ เพจ จะยังคงทำหน้าที่รักษาการซีอีโอของบริษัทต่อไป