ดัชนีดาวโจนส์ยังคงปรับตัวลงในวันนี้ หลังจากดิ่งลงอย่างหนักเมื่อวานนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน
ณ เวลา 21.58 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 25,764.76 จุด ลดลง 54.89 จุด หรือ 0.21%
ดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลงกว่า 200 จุด แตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์เมื่อคืนนี้ หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการใช้จ่ายด้านการก่อสร้างร่วงลงในเดือนธ.ค. ซึ่งสวนทางกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ นอกจากนี้ การปรับตัวลงของหุ้นกลุ่มธุรกิจสุขภาพและกลุ่มประกันสุขภาพยังเป็นอีกปัจจัยที่ฉุดตลาดลง หลังจากที่ในช่วงแรก ตลาดดีดตัวขึ้นโดยได้รับแรงหนุนจากการความหวังเกี่ยวกับการทำข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐและจีน
หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า สหรัฐอาจยกเลิกมาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าเกือบทุกรายการที่ได้บังคับใช้กับจีนตั้งแต่ปีที่แล้ว โดยคาดว่าผู้นำของทั้งสองประเทศอาจจะบรรลุข้อตกลงการค้าอย่างสมบูรณ์ในการประชุมวันที่ 27 มี.ค.นี้
วอลล์สตรีท เจอร์นัล ระบุว่า สหรัฐและจีนอยู่ในขั้นตอนสุดท้ายของการทำข้อตกลงการค้า โดยจีนเสนอที่จะปรับลดภาษีนำเข้า และผ่อนคลายกฎระเบียบด้านการนำเข้าสินค้าเกษตร เคมีภัณฑ์ รถยนต์ และสินค้าอื่นๆจากสหรัฐ
ราคาหุ้นทาร์เก็ต ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ของสหรัฐ พุ่งขึ้น 4% ในการซื้อขายวันนี้ หลังจากที่บริษัทเปิดเผยว่า บริษัทมีกำไรและรายได้สูงกว่าคาดในไตรมาส 4
ทั้งนี้ ทาร์เก็ตระบุว่า บริษัทมีรายได้ที่ระดับ 2.298 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.296 หมื่นล้านดอลลาร์
นอกจากนี้ บริษัทมีกำไรที่ระดับ 1.53 ดอลลาร์/หุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.52 ดอลลาร์/หุ้น
ขณะเดียวกัน บริษัทมียอดขายเพิ่มขึ้น 5.3% สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 5.1%