ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (5 มี.ค.) แต่หุ้นกลุ่มธนาคารเผชิญแรงกดดันจากข่าวอื้อฉาวครั้งใหม่เกี่ยวกับการฟอกเงิน ขณะที่นักลงทุนยังคงจับตาภาวะเศรษฐกิจจีน และตลาดหุ้นสหรัฐที่อ่อนแรงลง
ดัชนี Stoxx Europe บวก 0.15% ปิดที่ 375.64 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,297.52 จุด เพิ่มขึ้น 10.95 จุด หรือ +0.21% และ ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,620.74 จุด เพิ่มขึ้น 28.08 จุด หรือ +0.24% ขณะที่ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,183.43 จุด เพิ่มขึ้น 49.04 จุด หรือ +0.69%
นักลงทุนในตลาดมุ่งความสนใจไปที่เศรษฐกิจจีน หลังจากรัฐบาลจีนปรับลดเป้าหมายการขยายตัวทางเศรษฐกิจลงสู่ 6-6.5% เมื่อวานนี้ ต่ำกว่าเป้าหมายของปีก่อนที่ 6.6% และเป็นเป้าหมายอัตราการขยายตัวต่ำที่สุดในรอบ 30 ปีของจีน แต่ยังคงเป็นอัตราที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก
นายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีนประกาศว่า จีนตั้งเป้าที่จะบรรลุเป้าหมายการปรับลดภาษีและมาตรการเศรษฐกิจอื่นๆ วงเงินเกือบ 2 ล้านล้านหยวน (2.98 แสนล้านดอลลาร์)
สำหรับปัจจัยในฝั่งยุโรปนั้น นักลงทุนจะรอดูผลการประชุมนโยบายของธนาคารกลางยุโรปในวันพฤหัสบดีนี้
ส่วนการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจนั้น ดัชนี PMI บ่งชี้ว่า ภาคบริการของอิตาลีกลับมาขยายตัวเกินคาดในเดือนก.พ. แต่ข้อมูล GDP ยืนยันว่า เศรษฐกิจอิตาลีเข้าสู่ภาวะถดถอยทางเทคนิคในช่วงสิ้นปี 2561 ขณะที่ดัชนี PMI ของภาคบริการอังกฤษสูงเกินคาด ซึ่งบ่งชี้ว่ากิจกรรมในภาคบริการเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
ค่าเงินปอนด์ของอังกฤษร่วงลงหลังมีรายงานว่า รัฐบาลอังกฤษไม่คาดว่าจะมีความคืบหน้าใดๆ ในการประชุมระหว่างนายเจฟฟรีย์ ค็อกซ์ รมว.ยุติธรรมของอังกฤษและนายไมเคิล บาร์เนียร์ หัวหน้าผู้เจรจาของสหภาพยุโรป โดยปอนด์ที่อ่อนค่าลงช่วยหนุนหุ้นกลุ่มส่งออกของอังกฤษ
ด้านธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) เปิดเผยว่า ธนาคารพาณิชย์ของอังกฤษสามารถกู้ยืมเงินสกุลยูโรจาก BoE ได้ตั้งแต่สัปดาห์หน้า ซึ่งเป็นมาตรการล่าสุดที่จะสนับสนุนระบบการเงินของอังกฤษในกรณีที่มีการถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) แบบไร้ข้อตกลง
BoE เตือนว่า นักลงทุนควรเตรียมพร้อมรับผลกระทบที่รุนแรงในตลาดการเงิน หากอังกฤษต้องถอนตัวออกจากสหภาพยุโรปแบบไร้ข้อตกลงในวันที่ 29 มี.ค.
อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มธนาคารเผชิญแรงกดดันอย่างหนัก โดยเฉพาะธนาคารเรฟไฟเซน แบงก์ อินเตอร์เนชันแนลของออสเตรีย ซึ่งดิ่งลง 12.31% หลังบลูมเบิร์กรายงานว่า กองทุนเฮอร์มิเทจของนายบิล โบรว์เดอร์ระบุว่า ธนาคารเรฟไฟเซนไม่ได้สนใจสัญญาณเตือนที่จะสกัดกั้นการฟอกเงินของกลุ่มอาชญากรรมในรัสเซีย
หุ้นกลุ่มธนาคารของเนเธอร์แลนด์ปรับตัวลงจากรายงานข่าวในนิตยสารเดอ โกรน อัมสเตอร์ดัมเมอร์ ซึ่งระบุว่า มีการฟอกเงินอย่างผิดกฏหมายผ่านทางธนาคารของยุโรป โดยหุ้นเอบีเอ็น แอมโร ร่วง 1.33% และหุ้นไอเอ็นจี เอจี ร่วง 3.04%
ส่วนหุ้นโวดาโฟนของอังกฤษ บวก 2.19% หลังบริษัทประกาศแผนขายหุ้นกู้แปลงสภาพ 4.5 พันล้านดอลลาร์เพื่อนำเงินไปใช้ในการซื้อธุรกิจในยุโรปของบริษัทลิเบอร์ตี้ โกลบอล และบริษัทยังพิจารณาแผนการซื้อหุ้นคืนด้วย