ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (8 มี.ค.) โดยถูกกดดันจากหุ้นกลุ่มน้ำมันที่ร่วงลงอย่างหนักตามราคาน้ำมัน เนื่องจากนักลงทุนวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว หลังการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่น่าผิดหวังจากจีน เยอรมนี และสหรัฐ ขณะที่การดิ่งลงของหุ้นจีวีซี โฮลดิ้งส์ ฉุดตลาดลงด้วย
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,104.31 จุด ลดลง 53.24 จุด หรือ -0.74%
ตลาดหุ้นลอนดอนถูกกดดัน เนื่องจากนักลงทุนวิตกกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก หลังการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอจากประเทศต่างๆ โดยสำนักงานศุลกากรจีน (GAC) รายงานเมื่อวานนี้ว่า ยอดส่งออกเดือนก.พ.ร่วงลง 20.7% เมื่อเทียบเป็นรายปี สู่ระดับ 1.3524 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ยอดนำเข้าลดลง 5.2% สู่ระดับ 1.3112 แสนล้านดอลลาร์ ส่งผลให้มูลค่าการค้าต่างประเทศของจีนในเดือนก.พ. ลดลง 13.5% แตะที่ระดับ 2.6636 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ
สำนักงานสถิติแห่งชาติของเยอรมนี (Destatis) เปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า คำสั่งซื้อภาคอุตสาหกรรมเดือนม.ค.ปรับตัวลง 2.6% ในเดือนม.ค. สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.5%
ด้านกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นเพียง 20,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2560 และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 180,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราการว่างงานร่วงลงสู่ระดับ 3.8% ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่า จะลดลงสู่ระดับ 3.9%
นอกจากนี้ นักลงทุนยังคงให้ความสนใจกับสถานการณ์เกี่ยวกับการถอนตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) โดยนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษระบุว่า อังกฤษจะไม่ออกจากสหภาพยุโรป (EU) หากรัฐสภาอังกฤษไม่สนับสนุนข้อตกลงของเธอในการลงมติวันที่ 12 มี.ค.นี้
หุ้นจีวีซี โฮลดิงส์ ซึ่งทำธุรกิจพนัน ดิ่งลง 13.96% หลังจากผู้บริหารระดับสูงของบริษัทเทขายหุ้นออกมาจำนวนมาก ขณะที่หุ้นแพดดี พาวเวอร์ เบตแฟร์ ร่วงลง 2.04%
หุ้นกลุ่มน้ำมันร่วงลงอย่างหนักตามราคาน้ำมัน โดยหุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ ร่วง 2.05% และหุ้นบีพี ลดลง 1.18%
หุ้นแอนโตฟากัสตา ซึ่งทำธุรกิจเหมือง ร่วง 3.97%