ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าวันนี้ปรับตัวสูงขึ้น ในขณะที่นักลงทุนต่างซึมซับผลการประชุมของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ที่ให้คงอัตราดอกเบี้ยไว้ ขณะที่สภาประชาชนแห่งชาติของจีน (NPC) ได้อนุมัติกฎหมายการลงทุนสำหรับต่างชาติ ในการประชุม NPC ประจำปีครั้งที่ 13 ซึ่งปิดฉากลงแล้วในวันนี้
ทั้งนี้ กฎหมายดังกล่าวนับเป็นกฎหมายใหม่และเป็นกฎหมายพื้นฐานสำหรับการลงทุนของต่างชาติในจีน โดยมีการรวมมาตราเกี่ยวกับการเข้าร่วม การส่งเสริม การคุ้มครอง และการจัดการด้านการลงทุนของต่างชาติ
ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 29,124.18 จุด เพิ่มขึ้น 272.79 จุด, +0.95% ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 21,504.73 จุด เพิ่มขึ้น 217.71 จุด, +1.02% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดภาคเช้าที่ 1,677.09 จุด เพิ่มขึ้น 2.57 จุด, +0.15%
ธนาคารกลางญี่ปุ่น มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายเอาไว้ที่ระดับ -0.1% ไว้ในการประชุมวันนี้ รวมทั้งปรับลดมุมมองด้านการส่งออกและผลผลิตภาคอุตสาหกรรม
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า คณะกรรมการบริหารของ BOJ ได้ลงคะแนนเสียง 7 ต่อ 2 ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายระยะสั้นไว้ที่ -0.1% รวมทั้งคงอัตราผลตอบแทนระยะยาวไว้ใกล้ระดับ 0%
คณะกรรมการบริหารของ BOJ ระบุว่า BOJ จะยังคงซื้อสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยง เช่น กองทุน ETF นอกจากนี้ ทางบอร์ดยังได้ระบุว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมและการส่งออกนั้นได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจประเทศต่างๆ เช่น จีน
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่ได้มีการเปิดเผยในวันนี้ ได้แก่ สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานว่า ราคาบ้านใน 70 เมืองใหญ่ของจีนปรับตัวขึ้นเล็กน้อยในเดือนก.พ.
รายงานของ NBS ระบุว่า ราคาบ้านใหม่ใน 4 เมืองหลักของจีน ได้แก่ ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ เซินเจิ้น และกว่างโจว ปรับตัวขึ้น 0.3% ในเดือนก.พ. เมื่อเทียบเป็นรายเดือน ซึ่งชะลอตัวลงจากเดือนม.ค.ที่มีการขยายตัว 0.4%
ส่วนราคาบ้านใหม่ใน 31 เมืองรองระดับสอง ปรับตัวขึ้น 0.7% และราคาบ้านใหม่ใน 35 เมืองรองระดับสาม ปรับตัวขึ้น 0.4%
ธนาคารกลางเกาหลีใต้ (BOK) เปิดเผยในวันนี้ว่า ราคาส่งออกเพิ่มขึ้น 0.2% สู่ระดับ 82.97 ในเดือนก.พ. อันเป็นผลจากราคาส่งออกผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมและถ่านหิน ที่เพิ่มขึ้น 8% ตามราคาน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้นในตลาดโลก
ทั้งนี้ ราคาส่งออกเดือนก.พ.ปรับตัวขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 4 เดือนนับตั้งแต่เดือนต.ต. 2561