ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดลบ 141.71 จุด เหตุหุ้นแบงก์ร่วงหลังเฟดส่งสัญญาณไม่ขึ้นดอกเบี้ยปีนี้

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday March 21, 2019 06:19 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (20 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มธนาคารซึ่งเป็นหุ้นมีความอ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย หลังจากที่ประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเมื่อวานนี้ พร้อมกับส่งสัญญาณว่าจะไม่มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ ขณะที่หุ้นกลุ่มขนส่งร่วงลงหลังจากบริษัทเฟดเอ็กซ์ปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการตลอดปีงบการเงิน 2562 เนื่องจากปัจจัยอัตราแลกเปลี่ยนและผลกระทบของสงครามการค้า

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,745.67 จุด ลดลง 141.71 จุด หรือ -0.55% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,824.23 จุด ลดลง 8.34 จุด หรือ -0.29% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,728.97 จุด เพิ่มขึ้น 5.02 จุด หรือ +0.07%

คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติเป็นเอกฉันท์ในการคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 2.25-2.50% ในการประชุมเมื่อวานนี้ พร้อมกับส่งสัญญาณว่าจะไม่มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ จากเดิมที่ระบุในการประชุมเดือนธ.ค.ปีที่แล้วว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้

ทั้งนี้ เฟดระบุว่าไม่มีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ ยกเว้นสถานการณ์จะมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก ส่วนในปีหน้า เฟดส่งสัญญาณว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 1 ครั้ง ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากที่ระบุไว้ในการประชุมเดือนธ.ค.ปีที่แล้ว

นอกจากนี้ แถลงการณ์เฟดระบุว่า เฟดจะชะลอการปรับลดงบดุลในเดือนพ.ค. จากระดับ 3 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน เหลือเพียง 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน ก่อนที่จะยุติการปรับลดงบดุลในเดือนก.ย.

หุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลงหลังจากเฟดออกแถลงการณ์ดังกล่าว โดยหุ้นโกลด์แมน แซคส์ ดิ่งลง 3.4% หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ ร่วงลง 2.09% หุ้นเวลส์ ฟาร์โก ดิ่งลง 2% หุ้นเจพีมอร์แกน เชส ร่วงลง 2.1% หุ้นซิตี้กรุ๊ป ดิ่งลง 2.06% และหุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ขยับลง 0.03%

ดัชนีหุ้นกลุ่มขนส่งร่วงลง 1.3% หลังจากเฟดเอ็กซ์เปิดเผยผลประกอบการในไตรมาส 3 ที่ต่ำกว่าที่คาดไว้และได้ปรับลดตัวเลขคาดการณ์ผลประกอบการตลอดปีงบการเงิน 2562 โดยระบุว่ารายได้จากต่างประเทศของบริษัทลดลงเนื่องจากปัจจัยอัตราแลกเปลี่ยนและสงครามการค้า ทั้งนี้ หุ้นเฟดเอ็กซ์ดิ่งลง 3.5% หุ้นยูไนเต็ด คอนติเนนตัล โฮลดิ้งส์ ร่วงลง 1.9% หุ้นไรเดอร์ ซิสเต็มส์ ลดลง 0.7% หุ้นแคนซัส ซิตี้ เซาเทิร์น ร่วงลง 1.9% และหุ้นยูไนเต็ด พาร์เซิล เซอร์วิส ดิ่งลง 2.2%

อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีดีดตัวขึ้น ซึ่งช่วยหนุนดัชนี Nasdaq ปิดตลาดในแดนบวก โดยหุ้นเน็ตฟลิกซ์พุ่งขึ้น 1.6% หุ้นอเมซอนดอทคอม พุ่งขึ้น 2.01% หุ้นแอปเปิล เพิ่มขึ้น 0.9% หุ้นเฟซบุ๊กพุ่งขึ้น 2.4% ส่วนหุ้นอัลฟาเบท ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล พุ่งขึ้น 2% แม้มีรายงานข่าวว่า สหภาพยุโรป (EU) มีคำสั่งให้กูเกิลจ่ายเงินค่าปรับจำนวน 1.49 พันล้านยูโร ในข้อหาขัดขวางการแข่งขันในภาคโฆษณาในตลาดออนไลน์

หุ้นเจเนอรัล มิลส์ ผู้ผลิตอาหารแบรนด์ดัง เช่น ซีเรียล Cheerios และโยเกิร์ต Yoplait ปิดตลาดพุ่งขึ้น 2.2% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาด พร้อมกับปรับเพิ่มคาดการณ์รายได้ตลอดปีงบการเงิน 2562

นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีการผลิตเดือนมี.ค.จากเฟดฟิลาเดลเฟีย, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นต้นเดือนมี.ค.จากมาร์กิต, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นต้นเดือนมี.ค.จากมาร์กิต, ยอดขายบ้านมือสองเดือนก.พ. และสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนม.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ