ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (29 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับความคืบหน้าในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน และได้แรงหนุนจากการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจของอังกฤษที่ดีเกินคาด ขณะที่เงินปอนด์ที่อ่อนค่าลงช่วยหนุนหุ้นกลุ่มส่งออก โดยปอนด์ถูกดดัน หลัง สภาสามัญชนของอังกฤษมีมติด้วยคะแนนเสียง 344 ต่อ 286 เสียงเมื่อคืนนี้ คว่ำข้อตกลงว่าด้วยการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) เป็นครั้งที่ 3
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,279.19 จุด เพิ่มขึ้น 44.86 จุด, +0.62%
ตลาดได้รับแรงหนุนจากรายงานข่าวความคืบหน้าในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน โดยนายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ เปิดเผยว่า เขาและนายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ ได้เสร็จสิ้นการเจรจาการค้ากับจีนแล้ว และการหารือเป็นไปอย่างสร้างสรรค์
ทั้งนี้ คณะผู้แทนการค้าสหรัฐ ได้เดินทางไปยังกรุงปักกิ่งของจีนเพื่อทำการเจรจาการค้ากับนายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีน ในวันที่ 28-29 มี.ค. จากนั้นนายหลิว เหอ และคณะ จะเดินทางไปยังกรุงวอชิงตันในสัปดาห์แรกของเดือนเม.ย. เพื่อหารือกับคณะเจรจาการค้าของสหรัฐ
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจเชิงบวก โดยดัชนีราคาบ้านทั่วประเทศของอังกษในเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 0.7% สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 0.6% ขณะที่ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 4/2561 ของอังกฤษขยายตัวเกินคาด 1.4%
เงินปอนด์ที่อ่อนค่าลงช่วยหนุนตลาดด้วย โดยปอนด์ปรับตัวลง หลังจากรัฐสภาอังกฤษลงมติคว่ำข้อตกลง Brexit เป็นครั้งที่ 3 และคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ซึ่งเป็นองค์กรบริหารของสหภาพยุโรป (EU) ระบุว่า ขณะนี้มีแนวโน้มที่อังกฤษจะแยกตัวออกจาก EU ในวันที่ 12 เม.ย.โดยไม่มีข้อตกลง
หุ้นสแตนดาร์ด ไลฟ์ อเบอร์ดีน (SLA) ปรับตัวขึ้น 2.25% หลังนักวิเคราะห์แนะนำซื้อหุ้นของ SLA เนื่องจากบริษัทยังคงสามารถจ่ายเงินปันผล 21.6 เพนซ์ต่อหุ้น แม้มูลค่าสินทรัพย์ของบริษัทลดลงก็ตาม
หุ้นกลุ่มเหมืองปรับตัวขึ้น โดยหุ้นแอนโทฟากัสตา บวก 3.60% หุ้นเกล็นคอร์ เพิ่มขึ้น 2.04% หุ้นแองโกล อเมริกัน ปรับตัวขึ้น 3.08% หุ้นริโอ ทินโต บวก 1.77% และ หุ้นบีเอชพี เพิ่มขึ้น 1.68%