ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดลบ 14.11 จุด วิตกศก.โลกชะลอตัว,นักลงทุนจับตาผลประกอบการ

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday April 12, 2019 06:48 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (11 เม.ย.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกยังคงเป็นปัจจัยกดดันตลาด นอกจากนี้ นักลงทุนยังชะลอการซื้อขายก่อนที่บริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ของสหรัฐจะเปิดเผยผลประกอบการในวันศุกร์ ซึ่งรวมถึงเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,143.05 จุด ลดลง 14.11 จุด หรือ -0.05% ขณะที่ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,947.36 จุด ลดลง 16.88 จุด หรือ -0.21% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,888.32 จุด เพิ่มขึ้น 0.11 จุด หรือ +0.00%

ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างซบเซาเมื่อคืนนี้ ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจโลก หลังจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้ปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปีนี้ลงสู่ระดับ 3.3% จากระดับ 3.5% พร้อมกับเตือนถึงความเสี่ยงที่อังกฤษจะแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) โดยไม่มีการทำข้อตกลง และผลกระทบจากความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐและประเทศคู่ค้า

หุ้นกลุ่มธุรกิจเพื่อสุขภาพร่วงลงอย่างหนัก หลังจากมีรายงานว่า วุฒิสมาชิกเบอร์นี แซนเดอร์ส จะนำเสนอร่างกฎหมาย "Medicare for All" หรือประกันสุขภาพถ้วนหน้า เพื่อให้สภาคองเกรสโหวตรับรอง โดยหุ้นยูไนเต็ดเฮลธ์ ซึ่งเป็นหุ้นที่มีน้ำหนักมากในดัชนีดาวโจนส์ ดิ่งลง 4.3% หุ้นเมดโทรนิค ลดลง 1.2% หุ้นเอชซีเอ เฮลธ์แคร์ ซึ่งเป็นผู้ประกอบการโรงพยาบาลรายใหญ่ที่สุดของสหรัฐ ดิ่งลง 3.8% หุ้นซิกนา คอร์ปอเรชัน ซึ่งเป็นบริษัทประกันสุขภาพรายใหญ่ของสหรัฐ ร่วงลง 2.5 หุ้นเซนเทเน คอร์ป ดิ่งลง 3.7% และหุ้นโมลินา เฮลธ์แคร์ ร่วงลง 2.5%

หุ้นบริษัทผลิตเหล็กรายใหญ่ร่วงลง โดยหุ้นยูเอส สตีล ดิ่งลง 3.2% หลังจากแบงก์ ออฟ อเมริกา เมอร์ริล ลินช์ ได้ปรับลดอันดับความน่าลงทุนของหุ้นยูเอส สตีล ลงสู่ระดับ "underperform" ขณะที่หุ้นเอเค สตีล ร่วงลง 8.3% และหุ้นสตีล ไดมามิกส์ ลดลง 2.5%

หุ้นเทสลา ร่วงลง 2.8% หลังจากมีรายงานว่า เทสลา และบริษัทพานาโซนิค ได้ระงับแผนการขยายโรงงานขนาดใหญ่

หุ้นเบด บาธ แอนด์ บียอนด์ ซึ่งเป็นห้างจำหน่ายอุปกรณ์ซ่อมแซมบ้านและตกแต่งบ้าน ร่วงลง 8.8% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายที่ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์

อย่างไรก็ดี หุ้นกลุ่มธนาคารดีดตัวขึ้นก่อนที่ธนาคารรายใหญ่ของสหรัฐจะเปิดเผยผลประกอบการ โดยหุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ เพิ่มขึ้น 0.8% หุ้นเจพีมอร์แกน เชส เพิ่มขึ้น 0.8% หุ้นซิตี้กรุ๊ป เพิ่มขึ้น 0.6%

ทั้งนี้ เจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค และเวลส์ ฟาร์โก มีกำหนดเปิดเผยผลประกอบการในวันศุกร์ ขณะที่ซิตี้กรุ๊ป และโกลด์แมน แซคส์ มีกำหนดเปิดเผยในวันจันทร์ ส่วนแบงก์ ออฟ อเมริกา และมอร์แกน สแตนลีย์ มีกำหนดเปิดเผยในวันอังคาร

ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับปัจจัยหนุนในระหว่างวัน หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 8,000 ราย สู่ระดับ 196,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.2512 และปรับตัวลดลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 4

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆที่มีกำหนดเปิดเผยในวันนี้ได้แก่ ราคานำเข้าและส่งออกเดือนมี.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนเม.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ