ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์พุ่งขึ้นเกือบ 200 จุดในวันนี้ บ่งชี้ว่าตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะปรับตัวขึ้นในคืนนี้ ขานรับการประกาศผลประกอบการที่แข็งแกร่งของเจพีมอร์แกน เชส
ณ เวลา 18.58 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์บวก 182 จุด หรือ 0.70% สู่ระดับ 26,315 จุด
ราคาหุ้นเจพีมอร์แกน เชส พุ่งกว่า 2% ในการซื้อขายก่อนเปิดตลาดวอลล์สตรีท หลังเปิดเผยว่า ทางธนาคารมีกำไร และรายได้สูงกว่าคาดในไตรมาสแรก โดยได้รับปัจจัยบวกจากอัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวสูงขึ้น
ทั้งนี้ เจพีมอร์แกน เชส ซึ่งเป็นธนาคารขนาดใหญ่ที่สุดของสหรัฐเมื่อพิจารณาจากมูลค่าสินทรัพย์ ระบุว่า ธนาคารมีกำไร 2.65 ดอลลาร์/หุ้นในไตรมาสแรก สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.35 ดอลลาร์/หุ้น
นอกจากนี้ ธนาคารมีรายได้ 2.99 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.84 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยรายได้จากดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 8%
ขณะเดียวกัน ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่บริษัทเชฟรอน ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานใหญ่เป็นอันดับ 2 ของสหรัฐ ประกาศแผนเข้าซื้อกิจการอนาดาร์โค ปิโตรเลียม ซึ่งเป็นบริษัทด้านการสำรวจและผลิตน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ ในวงเงิน 3.3 หมื่นล้านดอลลาร์
ข่าวดังกล่าวส่งผลให้ราคาหุ้นของอนาดาร์โคทะยานขึ้น 30% ในการซื้อขายก่อนเปิดตลาดวอลล์สตรีท ขณะที่ราคาหุ้นเชฟรอนร่วงลง 4.3%
เชฟรอนหวังว่าการซื้อกิจการอนาดาร์โค จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตน้ำมันจากชั้นหินดินดาน (shale oil) รวมทั้งก๊าซธรรมชาติ
ทั้งนี้ ตามข้อตกลงดังกล่าว เชฟรอนจะซื้อหุ้นอนาดาร์โคในราคาหุ้นละ 65 ดอลลาร์ โดยให้ราคาสูงกว่าระดับปิดตลาดวานนี้ถึง 37%
นอกจากนี้ ผู้ถือหุ้นอนาดาร์โค จะได้รับหุ้นเชฟรอนจำนวน 0.3869 หุ้น และเงินสด 16.25 ดอลลาร์สำหรับทุกๆ 1 หุ้นของอนาดาร์โค
ขณะเดียวกัน เชฟรอนจะเข้ารับภาระหนี้จำนวน 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ของอนาดาร์โค
คาดว่าเชฟรอนจะสามารถปิดข้อตกลงดังกล่าวในไตรมาส 2 ของปีนี้ และหลังจากนั้น เชฟรอนจะเพิ่มวงเงินในโครงการซื้อคืนหุ้นเป็น 5 พันล้านดอลลาร์ จากเดิมที่ 4 พันล้านดอลลาร์