ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อวันศุกร์ (12 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับการประกาศผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทเจพีมอร์แกน เชส รวมถึงการที่บริษัทเชฟรอนประกาศแผนเข้าซื้อกิจการอนาดาร์โค ปิโตรเลียม
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,412.30 จุด เพิ่มขึ้น 269.25 จุด หรือ +1.03% ขณะที่ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,984.16 จุด เพิ่มขึ้น 36.80 จุด หรือ +0.46% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,907.41 จุด เพิ่มขึ้น 19.09 จุด หรือ +0.66%
ราคาหุ้นเจพีมอร์แกน เชส พุ่งขึ้น 4.69% หลังเปิดเผยว่า ธนาคารมีกำไร และรายได้สูงกว่าคาดในไตรมาสแรก โดยได้รับปัจจัยบวกจากอัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวสูงขึ้น ทั้งนี้ เจพีมอร์แกน เชส ซึ่งเป็นธนาคารขนาดใหญ่ที่สุดของสหรัฐเมื่อพิจารณาจากมูลค่าสินทรัพย์ ระบุว่า ธนาคารมีกำไร 2.65 ดอลลาร์/หุ้นในไตรมาสแรก สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.35 ดอลลาร์/หุ้น และธนาคารมีรายได้ 2.99 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.84 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยรายได้จากดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 8%
หุ้นวอลท์ ดิสนีย์ พุ่งขึ้น 11.52% หลังเตรียมเปิดให้บริการสตรีมมิ่งในชื่อ ดิสนีย์ พลัส (Disney Plus) ในวันที่ 12 พ.ย.นี้ ด้วยอัตราค่าบริการ 6.99 ดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน ซึ่งถูกกว่าคู่แข่งอย่างเน็ตฟลิกซ์ที่คิดค่าบริการอยู่ 13 ดอลลาร์ต่อเดือน
หุ้นอนาดาร์โค ปิโตรเลียม ซึ่งเป็นบริษัทด้านการสำรวจและผลิตน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ ทะยานขึ้น 31.98% หลังบริษัทเชฟรอน ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานใหญ่เป็นอันดับ 2 ของสหรัฐ ประกาศแผนเข้าซื้อกิจการอนาดาร์โค ปิโตรเลียม ในวงเงิน 3.3 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยเชฟรอนหวังว่าการซื้อกิจการอนาดาร์โค จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตน้ำมันจากชั้นหินดินดาน (shale oil) รวมทั้งก๊าซธรรมชาติ
หุ้นเชฟรอนร่วง 4.94%
หุ้น 10 ใน 11 กลุ่มของดัชนี S&P 500 ปิดบวก โดยกลุ่มการเงินนำตลาดพุ่งขึ้นกว่า 1.9%
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อวันศุกร์ประกอบด้วย กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคานำเข้าปรับตัวขึ้นเป็นเดือนที่ 3 ในมี.ค. โดยดีดตัวขึ้น 0.6% เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากพุ่งขึ้น 1.0% ในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. 2559 อย่างไรก็ดี เมื่อเทียบรายปี ดัชนีราคานำเข้าทรงตัวในเดือนมี.ค. หลังจากปรับตัวลง 3 เดือนติดต่อกัน
ส่วนดัชนีราคานำเข้าพื้นฐาน ซึ่งไม่รวมหมวดอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนมี.ค.
นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐยังเปิดเผยว่า ดัชนีราคาส่งออกเพิ่มขึ้น 0.7% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบรายเดือน ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าเพิ่มขึ้น 0.2% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.7% ในเดือนก.พ. และเมื่อเทียบรายปี ดัชนีราคาส่งออกเพิ่มขึ้น 0.6% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนก.พ.
ส่วนผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวลงสู่ระดับ 96.9 ในเดือนเม.ย. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 98.0 จากระดับ 98.4 ในเดือนมี.ค. โดยนักวิเคราะห์ระบุว่า การปรับตัวลงของดัชนีเป็นเพราะผลบวกจากมาตรการปรับลดอัตราภาษีของรัฐบาลได้เริ่มเบาบางลง