ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นในช่วงเปิดตลาดวันนี้ หลังจากที่บริษัทในกลุ่มบริการสุขภาพ ซึ่งรวมถึง จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน เผยผลประกอบการดีเกินคาด
ณ เวลา 20.48 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 26,488.47 จุด เพิ่มขึ้น 103.70 จุด หรือ 0.39% ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปรับตัวขึ้นใกล้แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
หุ้นแบล็กร็อก พุ่ง 2.10% หลังผลประกอบการดีกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ขณะที่หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ลดลง 1.44% หลังรายได้ไตรมาสแรกออกมาต่ำกว่าคาด
ด้านหุ้นยูไนเต็ดเฮลธ์ กรุ๊ป บวก 3% หลังกำไรและรายได้ไตรมาสแรกออกมาดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ส่วนจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน บวก 2.61% หลังบริษัทเผยกำไรและรายได้ปรับตัวขึ้นสูงเกินคาด พร้อมปรับเพิ่มแนวโน้มการเติบโตของยอดขายทั้งปีนี้
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยแล้วในวันนี้ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) รายงานว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐปรับตัวลงในเดือนมี.ค. หลังผลผลิตเหมืองแร่ลดลง ขณะที่ผลผลิตในภาคการผลิตทรงตัว ท่ามกลางการชะลอตัวของเศรษฐกิจทั่วโลกและสถานการณ์ตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน
เฟดเปิดเผยว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐ ซึ่งรวมผลผลิตในภาคการผลิต เหมืองแร่ และสาธารณูปโภค ลดลง 0.1% ในเดือนมี.ค. หลังจากปรับตัวขึ้น 0.1% ในเดือนก.พ.
ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนมี.ค. จะปรับตัวขึ้น 0.1% จากเดือนก่อนหน้า
รายงานระบุว่า ผลผลิตเหมืองแร่ลดลง 0.8% จากเดือนก่อนหน้า โดยเป็นการปรับตัวลดลงต่อเนื่องมาตั้งแต่เดือนธ.ค.
ด้านผลผลิตในภาคการผลิตทรงตัว หลังลดลงในเดือนม.ค.และก.พ. ส่งผลให้ในช่วงสามเดือนแรกของปีนี้ ผลผลิตภาคการผลิตลดลง 1.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ส่วนผลผลิตภาคสาธารณูปโภค ปรับตัวขึ้น 0.2%
นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่มีกำหนดเปิดเผยในวันนี้ ยังรวมถึง ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนเม.ย.จากสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) ซึ่งจะมีการรายงานในเวลา 21.00 น. ตามเวลาไทย