ดัชนีดาวโจนส์เปิดแดนลบในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน
ณ เวลา 20.50 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 26,512.07 จุด ลบ 47.47 จุด หรือ 0.18%
การซื้อขายเป็นไปอย่างเงียบเหงาในวันนี้ ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรปยังคงปิดทำการเนื่องในวัน Easter Monday
หุ้นกลุ่มการเงินและอุตสาหกรรมดิ่งลงนำตลาดในวันนี้ ขณะที่กลุ่มพลังงานพุ่งขึ้นสวนทางตลาด ตามการทะยานขึ้นของราคาน้ำมัน
สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI พุ่งขึ้นกว่า 2% ทะลุ 65 ดอลลาร์ในวันนี้ หลังจากหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ รายงานว่า รัฐบาลสหรัฐเตรียมประกาศยกเลิกคำสั่งผ่อนผันให้ 8 ประเทศนำเข้าน้ำมันจากอิหร่าน พร้อมกับเตือนว่า หากประเทศเหล่านี้ยังคงนำเข้าน้ำมันจากอิหร่าน ก็จะถูกสหรัฐคว่ำบาตร
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้รับแรงหนุนจากภาวะตึงตัวในตลาดน้ำมัน จากการลดลงของสต็อกน้ำมันสหรัฐ, การปรับลดกำลังการผลิตของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) รวมทั้งการที่สหรัฐทำการคว่ำบาตรการส่งออกน้ำมันของเวเนซุเอลา
รายงานข่าวระบุว่า นายไมค์ ปอมเปโอ รมว.ต่างประเทศสหรัฐ จะเป็นผู้ประกาศยกเลิกคำสั่งผ่อนผันดังกล่าวในวันนี้ โดยจะมีผลอย่างเป็นทางการในวันที่ 2 พ.ค.
เมื่อเดือนพ.ย.ปีที่แล้ว สหรัฐได้บังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรอิหร่าน โดยมีผลต่อภาคธุรกิจพลังงาน ธนาคาร การต่อเรือ และการเดินเรือ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวมีเป้าหมายที่จะกดดันให้อิหร่านยกเลิกโครงการนิวเคลียร์ รวมทั้งยุติการสนับสนุนกลุ่มติดอาวุธในตะวันออกกลาง อย่างไรก็ดี รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศผ่อนผันให้ 8 ประเทศยังคงสามารถนำเข้าน้ำมันจากอิหร่านได้เป็นเวลา 6 เดือน โดยประเทศดังกล่าว ได้แก่ จีน อินเดีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน ตุรกี อิตาลี และกรีซ ตลาดถูกกดดัน หลังมีข่าวว่า รัฐบาลจีนจะทำการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ มากกว่าที่จะออกมาตรการใหม่ๆเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ นักลงทุนจับตาการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน โดยบริษัทในดัชนี S&P 500 มากกว่า 140 แห่งจะประกาศผลประกอบการในสัปดาห์นี้ ขณะนี้ บริษัทจำนวน 76.5% ในดัชนี S&P 500 สามารถรายงานผลประกอบการไตรมาสแรกสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ และดีกว่าที่มีการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าบริษัทจดทะเบียนจะรายงานผลประกอบการลดลง 4.2% ในไตรมาสแรก บริษัทฮัลลิเบอร์ตัน ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขุดเจาะน้ำมันและก๊าซรายใหญ่ของสหรัฐ เปิดเผยรายได้ และกำไรสูงกว่าคาดในไตรมาสแรก ทั้งนี้ ฮัลลิเบอร์ตัน เปิดเผยว่า บริษัทมีรายได้ที่ระดับ 5.737 พันล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 5.530 พันล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ บริษัทมีกำไร 23 เซนต์/หุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 22 เซนต์/หุ้น