ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (25 เม.ย.) โดยได้รับผลกระทบจากข่าวความล้มเหลวในการเจรจาควบรวมกิจการระหว่างเซนส์บิวรีกับเอสดา และระหว่างดอยซ์แบงก์กับคอมเมิร์ซแบงก์ นอกจากนี้ ตลาดยังวิตกเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจยูโรโซน หลังเยอรมนีเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอเกินคาด
ดัชนี Stoxx Europe 600 ลบ 0.21% ปิดที่ 390.15 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,557.67 จุด ลดลง 18.39 จุด หรือ -0.33% และ ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,282.60 จุด ลดลง 30.56 จุด หรือ -0.25% ขณะที่ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,434.13 จุด ลดลง 37.62 จุด หรือ -0.50%
ตลาดปรับตัวลง โดยได้รับผลกระทบจากข่าวที่ว่า การเจรจาควบรวมกิจการระหว่างเซนต์บิวรีกับเอสดา และระหว่างดอยซ์แบงก์กับคอมเมิร์ซแบงก์ ประสบความล้มเหลว
ทั้งนี้ การเจรจาควบรวมกิจการระหว่างดอยซ์แบงก์ ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่ที่สุดของเยอรมนี และคอมเมิร์ซแบงก์ ซึ่งเป็นธนาคารคู่แข่ง ได้ยุติลงเมื่อวานนี้ โดยทั้งสองฝ่ายไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกันได้ แม้ว่าการเจรจาดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลเยอรมนี ซึ่งต้องการผลักดันให้ภาคธนาคารมีความแข็งแกร่ง
ด้านสำนักงานควบคุมการแข่งขันของอังกฤษก็ได้ขัดขวางข้อเสนอของเซนส์บิวรีในการเทคโอเวอร์บริษัทเอสดาของวอลมาร์ท
นอกจากนี้ นักลงทุนยังกังวลกับแนวโน้มเศรษฐกิจยูโรโซนด้วย หลัง Ifo ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจของเยอรมนี เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจของเยอรมนีลดลงสู่ระดับ 99.2 ในเดือนเม.ย. สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 99.9 จากระดับ 99.7 ในเดือนมี.ค.
หุ้นดอยซ์แบงก์ ลบ 1.49% และหุ้นคอมเมิร์ซแบงก์ ร่วง 2.29%
ส่วนหุ้นบาร์เคลย์ส แบงก์ ร่วง 3.59% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลกำไรร่วงลง 28% ในไตรมาส 1/2562 เมื่อเทียบเป็นรายปี
หุ้นเซนส์บิวรี ซึ่งเป็นซูเปอร์มาร์เก็ตรายใหญ่ที่สุดอันดับ 3 ของอังกฤษ ดิ่งลง 4.68%